ครม.เห็นชอบมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" 2566 แล้ว รอบนี้สามารถใช้จ่ายซื้อสินค้านำมาลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุด 4 หมื่นบาท ถือเป็นมาตรการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงการคลัง เริ่ม 1 ม.ค.2566
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งในครั้งนี้กำหนดค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการนำมาลดหย่อนภาษีได้ในวงเงิน 40,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 ถึง 15 ก.พ.2566 รวมระยะเวลา 46 วัน เงื่อนไขมีอะไรบ้างมาสรุปกัน
1.สินค้าและบริการทั่วไปที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
2.หนังสือ (รวมถึง e-book)
3.สินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้ว
ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ / ค่ายาสูบ บุหรี่ /ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และ เรือ /ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร /ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต / ค่าบริการจัดนำเที่ยว / ค่าที่พักในโรงแรมค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ / ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และค่าบริการที่มีข้อตกลงให้บริการระยะยาว เริ่มต้น ก่อน 1 ม.ค.66 หรือสิ้นสุดหลัง 15 ก.พ.66 / ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า / ค่าเบื้ยประกันวินาศภัย / ทองคำแท่ง / ค่ารักษาพยาบาล /ค่าทำศัลยกรรม /ผักผลไม้สด / เนื้อสัตว์สด
สำหรับวงเงินในการซื้อสินค้า 40,000 บาทแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.สำหรับซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไปไม่เกิน 30,000 บาท (ต้องขอใบกำกับภาษีเป็นกระดาษ)
2.สำหรับซื้อสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีใบกำกับภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 10,000 บาท)
****สำหรับการใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2566 นั้น ก็จะนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี 2566 ***
เบื้องต้นกระทรวงการคลัง ประเมินว่า มาตรการช้อปดีมีคืน จะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้กว่า 8,200 ล้านบาท แต่จะส่งผลดีให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 56,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้กว่า 0.1-0.2% ในปี 2566