ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งทั่วโลก 25% ทุบสถิติ 17 ล้านคันในปี 2567
โร โมชัน (Rho Motion) บริษัทวิจัยด้านการตลาด เปิดเผยว่ายอดขายทั่วโลกของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติทะลุ 17 ล้านคัน โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญ คือยอดขายในเดือนธันวาคมที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงความต้องการในจีนและยุโรปที่ยังมีอยู่
คอนเทนต์แนะนำ
หากนับเฉพาะเดือนธันวาคม 2567 พบว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกสูงถึง 1.9 ล้านคัน โดยยอดขายในจีน เพิ่มขึ้น 36.5% เป็น 1.3 ล้านคัน และทำให้ยอดขายรวมทั้งปีในจีนอยู่ที่ 11 ล้านคัน ส่วนยอดขายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เพิ่มขึ้น 8.8% เป็น 0.19 ล้านคันในเดือนธันวาคม และยุโรปมียอดขายอยู่ที่ 0.31 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกมียอดขายรวมในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 26.4%
รายงานของ โร โมชัน ระบุว่าเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนและยุโรป ขณะที่การยกเลิกเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี เป็นปัจจัยกดดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค รวมถึงช่วยให้สหราชอาณาจักรสามารถแซงหน้าเยอรมนี ขึ้นเป็นตลาดแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปี 2567
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามองว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของรถยนต์ไฟฟ้าจากหลายปัจจัย อาทิ การเติบโตของยอดขายในจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว เป้าหมายลดการปล่อยมลพิษใหม่ที่กำลังเริ่มต้นในยุโรป และสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของทรัมป์ ซึ่งหากมีการดำเนินนโยบายเหมือนกับเยอรมนี ก็จะเป็นปัจจัยกดดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
อ้างอิง: Reuters
