‘อิสราเอล’ ประเทศสุดล้ำที่คนอาจไม่รู้

1.อิสราเอล ประเทศเล็กๆในตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม  

อิสราเอลเป็นประเทศในตะวันออกกลาง อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝั่งเหนือของทะเลแดง มีประชากรประมาณ 9.4 ล้านคน  มีพื้นที่ราว 27,800 ตร.กม. แต่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในดินเเดนนี้กว่า 4,000 ปีที่โดยเป็นแหล่งสำคัญของ 3 ศาสนา ได้แก่ ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม

ประชากรกว่า 79.8 นับถือศาสนายูดาย (Judaism) ศาสนาอิสลาม (14 %) และ คริสต์ (2%)

ทำให้อิสลาเอลมีวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น

• โดมแห่งศิลา หรือ โดมสีทอง ศาสนสถานสำคัญของศาสนาอิสลาม 

• กำแพงร้องไห้ สถานที่ศักดิ์ของชาวยิว สัญลักษณ์ของการที่คนอิสราเอลได้หวนคืนสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา

• ทะเลเดดซี ทะเลที่ไม่มีวันจม

2.อิสราเอล เจ้าแห่งนวัตกรรมน้ำสุดล้ำ 

ด้วยความที่เป็นพื้นที่แห้งแล้วในทะเลทราย จึงมีปัญหาเรื่องน้ำ  แต่รัฐบาลอิสราเอล ผลักดันให้ เรื่อง “น้ำ” เป็นวาระแห่งชาติ มีการใช้เทคโนโลยีกลั่นน้ำเค็มและการรีไซเคิลน้ำเสียให้กลับมาเป็นน้ำจืด  ปริมาณน้ำดื่มกว่า 80% ในอิสราเอลมาจากกระบวนการแยกเกลือออกจากน้ำ และเป็นประเทศที่ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลมากที่สุดของโลก

นอกจากนี้ยังมีระบบการเก็บน้ำที่มีประสิทธิภาพ หากมีฝนตกก็สามารถมีน้ำเก็บไว้ใช้ได้ตลอด  

ปัจจุบันอิสราเอลเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้นำโลกในด้านน้ำและมีระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพและก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

3.ผลผลิตทางการเกษตรทำเงินมหาศาล 

แม้ว่าพื้นที่อิสราเอลจะเหมาะสมในการเพาะปลูกเพียง 20 % แต่รัฐบาลสามารถผลักดันให้พืชทำเงินได้ เพราะวิจัยและพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชให้มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศแถบทะเลทรายให้มากที่สุด เช่น 

• โจโจบา (Jojoba) น้ำมันสกัดจากเมล็ดของมันถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง

• กระบองเพชรไร้หนามที่มีชื่อว่า Opuntia Tuna ใบของมันสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์

• มะเขือเทศอิสราเอล ที่ขึ้นชื่อในตลาดยุโรปที่สุด

4.ประเทศแห่งเทคโนโลยี และ มีบริษัทสตาร์ทอัพใหญ่ที่สุดในโลก 

ไม่น่าเชื่อว่า พื้นที่เล็กๆ และมีประชากร 9 ล้านคน แต่สามารถมีเทคโนโลยีสุดล้ำ เพราะเป็นประเทศให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างมาก  อิสราเอลจึงมี บริษัทสตาร์ทอัพใหญ่ที่สุดในโลก มากกว่า 2,000 แห่ง 

นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่ มีเทคโนโลยีการป้องกันประเทศมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และ ไวรัสสอดแนม Pegasus ที่อันตรายที่สุดในโลกก็มาจากอิสราเอล 

รวมไปถึง ที่ฮืฮฮา นั้นก็คือ  Iron dome  หนึ่งในระบบป้องกันการโจมตีที่มี “เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในโลก” โดยเป็นการใช้เรดาร์ทำงานเพื่อบ่งชี้และทำลายขีปนาวุธที่ถูกยิงเข้ามาให้พื้นที่ ก่อนที่ขีปนาวุธดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสียหาย โดยไอรอนโดมสามารถทำงานได้ในทุกสภาพลมฟ้าอากาศ  

ปัจจุบันอิสราเอลมีไอออนโดมประจำการอยู่ทั้งหมด 10 จุดทั่วประเทศ แต่ละจุดมีฐานยิง 4 ฐาน และสามารถยิงขีปนาวุธขึ้นไปสกัดได้ 20 ลูก จับขีปนาวุธจากศัตรูรอบเมืองใหญ่ ได้ตั้งแต่ 4-70 กิโลเมตร 

โดยอิสราเอล มีแผนจะพัฒนาให้ได้ถึง 250 กิโลเมตร อิสราเอล เคลมว่า สามารถป้องกันขีปนาวุธได้ถึง 97%

5.‘มอสซาด’ หน่วยข่าวกรองเบอร์ต้นๆ ของโลก 

Mossad เป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล ทําหน้าที่เป็นหูทิพย์เเละตาทิพย์ของรัฐบาล 

ก่อตั้งขึ้นโดยง ‘เดวิด เบนกูเรียน’ นายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอล ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปลายปี 1949 ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานราว 7,000 คน และ โดยได้รับงบประมาณประจำปีสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณแสนล้านบาท) 

การทํางานของ Mossad ถูกเเบ่งออกเป็นหลายส่วน เช่น  ฝ่ายติดตาม  ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายสงครามจิตวิทยา เเละยังมีสายลับที่แทรกซึมภายในขบวนการและประเทศต่าง ๆ โดยแต่ละฝ่ายของมอสซาดจะรับคำสั่งจาก ‘ผู้อำนวยการ’ ที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่า ‘พลตรี’ ใน IDF