หลังจากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา 1 ในนโยบายที่ทำทันทีคือความพยายามในการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยเฉพาะราคาพลังงานทั้งราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้
สำหรับราคาน้ำมันภาครัฐมีมาตรการดูแลราคาดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรเพราะมองว่า กลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซลเป็นกลุ่มการขนส่ง และภาคการเกษตร ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้เบนซินซึ่งรวมมถึงผู้ใช้แก๊สโซฮอลล์ 91 และ 95 ในช่วงที่ผ่านมาต้องเจอกับราคาขายปลีกหน้าปั้มขึ้นไปแตะ 40 บาทต่อลิตรแล้ว จนมีกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลด้วยเช่นกัน
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประกาศที่จะดูแลกลุ่มผู้ใช้เบนซินและขอเวลาศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งในการประชุม ครม.ล่าสุด(16 ต.ค.66) มีข่าวดีคือ รัฐบาลเตรียมแนวทางลดราคาน้ำมันเบนซินในภาพรวมทุกระบบเช่นเดียวกับที่ลดราคาค่าน้ำมันดีเซล เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน แต่จะลดลงได้ถึง 2.50บาทต่อลิตรหรือไม่ยังไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการ
โดยก่อนหน้านี้ มาตรการช่วยกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินคือ มาตรการช่วยเหลือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งใช้วงเงินราว 95 ล้านบาทต่อเดือน มาตรการที่ 2 คือการขยายจากกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการขนาดเล็กอื่นๆใช้เงินเดือนละ 4,000 ล้านบาท แต่รัฐมนตรีพลังงาน เห็นว่า ยังไม่ใช่มาตรการที่ต้องการ จึงเสนอแนวทางที่ 3 ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังและที่ประชุม ครม.เห็นด้วยคือลดทั้งระบบของเบนซิน แต่จะต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะสามารถรับภาระได้เท่าไหร่ ประเมินว่า จะได้คำตอบภายใน 2 อาทิตย์
อย่างไรก็ตามหากดูตามข้อมูโครงสร้างราคาน้ำมันล่าสุด จากลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน พบว่า ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันกลุ่มเบนซินสูงถึงลิตรละ 4 บาทกว่า
รมว.พลังงานกล่าวว่า
“น้ำมันเบนซินมีปัญหาเรื่องโครงสร้างน้ำมัน ผมยังไม่เข้าใจหลังจากที่มาทำงานได้เดือนกว่า คนที่ทำงานมาเป็นปียังไม่สามารถให้คำตอบผมได้ แปลกประหลาด ผมต้องศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริง หากปรับลดตรงไหนก็จะดำเนินการ เราพูดบนพื้นฐานบนโครงสร้างน้ำมันที่ใช้มาแล้วเป็นสิบๆปี ต้องหาแนวทางปรับลดราคามากกว่าและยั่งยืนกว่า ถ้าติดขัดเรื่องกฎหมาย ก็ต้องแก้ ไม่ใช่เรื่องยาก”
ส่วนค่าการตลาด นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการทำการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ คุยไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะข้อมูลที่ให้มาก็อ้างว่าเป็นความลับทางการค้า จึงต้องตั้งคณะกรรมการศึกษาจริงจัง นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้คำตอบ ต้องนำของกระทรวงเป็นทางการ ถ้าไม่ให้ก็ต้องใช้ของราชการเป็นหลัก เมื่อให้โอกาสนำตัวเลขมาชี้แจงไม่มา ตนก็ช่วยไม่ได้
สำหรับ โครงสร้างราคาน้ำมัน มีตั้งแต่ราคาหน้าโรงกลั่น ที่บวกค่าการกลั่นแล้ว ที่จริงแล้วค่าการกลั่นคือกำไรเบื้องต้นไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในการกลั่นซึ่งอยู่ในงบดำเนินงาน ตนได้บอกกับเจ้าหน้าที่กระทรวงให้เปลี่ยนคำเพราะใช้คำว่าค่าการกลั่นคนทั่วไปก็นึกว่าเป็นค่าใช้จ่าย แต่จริงๆ มันคือกำไรของโรงกลั่น ตนให้เวลาทำงาน 30-60 วัน เราไม่จำเป็นต้องรอเสียเวลา