BAM ฉลองครบรอบ 25 ปี ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาองค์กรเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็น "Digital Enterprise" เต็มรูปแบบ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การบริหารจัดการหนี้เสีย การประเมินราคาทรัพย์สิน ไปจนถึงการให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
ก้าวผ่านกาลเวลากว่าสองทศวรรษ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการบริหารสินทรัพย์ สร้างคุณูปการให้แก่ระบบเศรษฐกิจไทย ด้วยการแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4.8 แสนล้านบาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BAM มุ่งมั่นในการฟื้นฟูสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และทรัพย์สินรอการขาย ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เปรียบเสมือนการคืนลมหายใจให้แก่เศรษฐกิจไทย ผ่านการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ BAM ไม่เพียงแต่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นผู้สร้างโอกาสให้แก่ลูกหนี้ที่สุจริต ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้กล่าวถึงความสำเร็จตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาว่า BAM ได้บรรลุวัตถุประสงค์หลักในการเป็นองค์กรสำคัญของประเทศที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ประสบปัญหาทางการเงินได้ถึง 155,683 ราย คิดเป็นมูลค่าหนี้รวมกว่า 4.8 แสนล้านบาท นอกจากนี้ BAM ยังประสบความสำเร็จในการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) กว่า 52,258 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท
ในไตรมาสแรกของปี 2567 BAM มีผลการเรียกเก็บเงินที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 9.44% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้สามารถสร้างผลกำไรได้ถึง 423 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 58.43% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และเมื่อรวมผลกำไรตลอด 25 ปีที่ผ่านมา BAM มีกำไรสะสมรวมสูงถึง 77,593 ล้านบาท
ปัจจุบัน BAM ยังคงมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) อยู่ในความดูแลจำนวน 87,371 ราย คิดเป็นภาระหนี้ รวม 496,002 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระบบสถาบันการเงินคิดเป็น 98.06% ขณะที่ NPA มีจํานวน 24,378 รายการ มูลค่าราคา ประเมิน 72,958 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระบบสถาบันการเงินคิดเป็น 47.19% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่สำคัญเมื่อเทียบกับระบบสถาบันการเงินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของ BAM ในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียและการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
BAM ไม่เพียงมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย (NPL) ผ่านมาตรการหลากหลายรูปแบบ เช่น การโอนตีทรัพย์ชำระหนี้ การซื้อคืนทรัพย์หลักประกัน หรือการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ยังให้ความสำคัญกับการเจรจาต่อรองที่เป็นธรรมและยืดหยุ่น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกหนี้รายหนึ่งอาจประสบปัญหาทางการเงินชั่วคราว BAM อาจเสนอทางเลือกในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถบริหารจัดการภาระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ BAM ยังมีโครงการที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ต้องการรักษาทรัพย์สินหลักประกันไว้ เช่น โครงการ "คืนทรัพย์ให้คุณ" ซึ่งช่วยให้ลูกหนี้สามารถซื้อคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดได้ในราคาที่เหมาะสม หรือโครงการ "สุขใจได้บ้านคืน" ที่เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เช่าทรัพย์สินเดิมของตนเองต่อไป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ลูกหนี้สามารถกลับมาตั้งหลักและมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
ในส่วนของการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) BAM มีความเชี่ยวชาญในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น โครงการ "คอนโดราคามหาชน" และ "คอนโดโดนใจสบายกระเป๋า" ที่มุ่งเน้นการนำเสนอที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือโครงการซื้อทรัพย์แบบผ่อนชำระที่ช่วยให้ลูกค้าที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้มีโอกาสเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
นอกจากนี้ BAM ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ดินเปล่า โดยมีโครงการที่น่าสนใจ เช่น โครงการปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ที่ดิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย หรือโครงการ "พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก." ที่มุ่งเน้นการสร้างแปลงเกษตรต้นแบบ เพื่อให้ลูกค้าเห็นแนวทางในการใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างยั่งยืน
นายบัณฑิต กล่าวเสริมว่า ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ BAM ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง คือ เครือข่ายสำนักงานสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สำนักงานสาขาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ BAM เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง แต่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้บริการที่ครบวงจร ทั้งการให้คำปรึกษา การปรับโครงสร้างหนี้ และการจำหน่ายทรัพย์สิน
ที่สำคัญ พนักงานในสำนักงานสาขาส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ทำให้มีความเข้าใจในสภาพตลาดท้องถิ่นและความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด และการประเมินราคาทรัพย์สินได้อย่างแม่นยำ
ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน BAM มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ NPL และ NPA อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องผ่านการวิเคราะห์ตลาดและความร่วมมือกับสถาบันการเงินพันธมิตร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขายและผลเรียกเก็บเงินสด แต่ยังช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการถือครองทรัพย์สินอีกด้วย
สำหรับแผนกลยุทธ์ของ BAM ในปี 2567 ซึ่งมุ่งเน้นการขยายและพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้
กลยุทธ์การขยายธุรกิจ
กลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจ
กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ด้วยแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน BAM มั่นใจว่าจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศไทย และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต
BAM มองการณ์ไกลไปข้างหน้า 3-5 ปี ด้วยการวางเป้าหมายในการเป็น "Digital Enterprise" ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานหลักให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ NPL, NPA, งานด้านกฎหมาย, และบัญชีการเงิน รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อนำมาใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ และการรักษาความปลอดภัยของระบบและข้อมูลสารสนเทศ
ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า BAM ตั้งเป้าที่จะเป็น "ศูนย์กลางการสร้างมูลค่าทรัพย์" (Asset market maker) โดยจะขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปยัง Non-Financial Debt Management (NFD), Secured P2P Facilitator และ Regional AMC Expansion ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
สำหรับวิสัยทัศน์ระยะยาว BAM มุ่งสู่การสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการเพิ่มพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ (Non-RE) เช่น สินทรัพย์ทางเลือก (Alternative assets) การปล่อยกู้ให้แก่ลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี (Recovery credit) การเป็นศูนย์กลางซื้อขาย NPLs ระดับภูมิภาค (Regional NPLs marketplace) การลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private equity) การเป็นตัวกลางในการซื้อขายกิจการที่ประสบปัญหาทางการเงิน (Distressed PE broker) และการพัฒนาธุรกิจด้านข้อมูลการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (RE Data intelligence)
นอกจากนี้ BAM ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยมีแผนพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่ง (Successor & Talent) และพัฒนาความสามารถหลักของพนักงาน (Core Capability) เช่น งานด้าน NPL/NPA และงานประเมินราคาทรัพย์สิน