ทุเรียนไทยยังคงครองใจชาวจีน! ส่งออกพุ่งทะลุ 1.2 แสนตัน มูลค่า 717 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 แต่...ข่าวดีอาจมาพร้อมข่าวร้าย! ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ การเติบโตอาจชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า แถมคู่แข่งอย่างเวียดนามและมาเลเซียก็จ่อท้าชิงบัลลังก์! แล้วทุเรียนไทยควรจะรับมืออย่างไร?
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ (Global Trade Atlas: GTA) ว่า ไทยส่งออกทุเรียนสดไปจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยคิดเป็นมูลค่า 717 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 26,385.62 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขสูงกว่าอันดับ 2 เวียดนามซึ่งมีตัวเลขการส่งออกที่ 79,186 ตัน มูลค่า 369 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้แซงหน้าเวียดนาม ทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมศุลกากร ยังชี้ให้เห็นว่า ยอดส่งออกทุเรียนสดของไทยไปจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 ไทยส่งออกทุเรียนสดแล้วกว่า 225,204 ตัน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเติบโตต่อไป
โฆษกรัฐบาล ยังระบุถึงปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จนี้ว่า มาจากความต้องการทุเรียนไทยในจีนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความพยายามของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการขยายตลาดไปยังเมืองรองของจีน อำนวยความสะดวกทางการค้า และกระชับความร่วมมือกับนานาประเทศ ทำให้ราคาส่งออกทุเรียนไทยเฉลี่ยสูงถึง 216 บาทต่อกิโลกรัม
ไม่เพียงแค่ทุเรียนสดเท่านั้นที่ทำผลงานได้ดี การส่งออกมะม่วงของไทยไปเกาหลีใต้ก็พุ่งสูงขึ้นกว่า 230% จากการที่เกาหลีใต้ยกเว้นภาษีนำเข้ามะม่วงให้กับไทยชั่วคราว และความต้องการผลไม้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลไทยโดยกระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันให้เกาหลีใต้ลดภาษีนำเข้ามะม่วงไทยเป็นการถาวร ผ่านการเจรจา FTA ไทย-เกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นในกลางปี 2567 และเสร็จสิ้นภายในต้นปี 2569
นายชัย กล่าวว่า “นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุก วางแผนและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก ตัวเลขการส่งออกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในด้านนี้”
สถานที่จำหน่าย | เดือน | ราคาต่อกิโลกรัม |
ซุปเปอร์มาเก็ต ณ กรุงปักกิ่ง
|
มีนาคม | หมอนทองไทย ราคาปลีก 120 หยวน (600 บาท) |
พฤษภาคม
|
ก้านยาวไทย ราคาปลีก 60 หยวน (300 บาท) | |
หมอนทองไทย ราคาปลีก 69.8 หยวน (299 บาท) | ||
ตลาดค้าส่งสินค้าเกษตร ณ เมืองหางโจว
|
เมษายน | ราคาปลีก 70 หยวน (350 บาท) |
พฤษภาคม
|
ราคาปลีก 60 หยวน (300 บาท | |
ราคาส่ง 60 หยวน (300 บาท) ราคาส่งยกกล่อง 52 หยวน (260 บาท) |
||
ร้านขายผลไม้แฟรนไชส์ ณ เมืองหางโจว
|
เมษายน
|
หมอนทองไทย ราคาปลีก 120 หยวน (600 บาท) |
ชะนีไทย ราคาปลีก 100 หยวน (500 บาท) | ||
พฤษภาคม
|
หมอนทองไทย ราคาปลีก 70 หยวน (350 บาท) ถึง 90 หยวน (450 บาท) | |
ชะนีไทย ราคาปลีก 77.8 หยวน (389 บาท) | ||
ร้านแผงลอย ณ ตลาดกวางสี | พฤษภาคม | ราคาปลีก 100 หยวน (500 บาท |
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ | พฤษภาคม | ทุเรียนหมอนทองแช่แข็ง ขนาด 300 กรัม ราคาเฉลี่ย 33-50 หยวน (165-250 บาท) |
จากการประเมิณของ ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า แนวโน้มการส่งออกทุเรียนไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2567 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงจากอัตราการเติบโต 30% ในปีก่อนเนื่องจากในปี 2566 ที่ผ่านมาทุเรียนสดเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 18.2% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยทั้งหมดไปยังประเทศดังกล่าว แม้ว่าการส่งออกสินค้าไทยโดยรวมไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนจะหดตัวเล็กน้อยที่ -0.8% YoY แต่การส่งออกทุเรียนยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการส่งออกทุเรียนไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ ความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในตลาดจีน และปริมาณผลผลิตทุเรียนในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ การขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และการขนส่งทางรางผ่านทางรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดระยะเวลาในการขนส่งทุเรียนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า การส่งออกทุเรียนสดของไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2567 จะมีมูลค่า 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอลงจากปี 2566 เนื่องจากปริมาณการส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10% และราคาส่งออกที่อาจขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 2% การชะลอตัวของการเติบโตส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในบางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทุเรียน
นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งอย่างเวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาและส่วนแบ่งตลาดของทุเรียนไทย
ถึงแม้ไทยยังคงครองแชมป์ส่งออกทุเรียนสดไปจีน ด้วยยอดกว่า 1.2 แสนตัน มูลค่า 717 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความต้องการทุเรียนไทยในจีนที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับความพยายามของรัฐบาลในการขยายตลาดไปยังเมืองรองของจีน และอำนวยความสะดวกทางการค้า นอกจากนี้ การส่งออกมะม่วงของไทยไปเกาหลีใต้ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 230% จากการยกเว้นภาษีนำเข้าชั่วคราว ซึ่งรัฐบาลกำลังผลักดันให้เป็นการลดภาษีถาวรผ่านการเจรจา FTA ไทย-เกาหลีใต้
สำหรับแนวโน้มการส่งออกทุเรียนไปจีนในปี 2567 จะยังคงสดใส แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงเหลือ 12% จาก 30% ในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากปริมาณและราคาส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนในบางพื้นที่ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งอย่างเวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนแล้ว
สุดท้ายนี้ แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่ทุเรียนไทยยังคงมีจุดแข็งที่โดดเด่นในเรื่องคุณภาพ รสชาติ และความหลากหลายของพันธุ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดจีน ท่ามกลางคู่แข่งที่กำลังพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มา รัฐบาลไทย และ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย