กระบวนท่าเก่า เอามาใช้กับปัญหาใหม่ไม่ได้ นโยบาย “Zero Covid” หรือโควิดเป็นศูนย์ ที่เคยช่วยให้จีน เอาชนะโควิดได้ในเวฟแรกๆ ในตอนนี้กลับกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจจีนติดหล่ม กระทบถึงเศรษฐกิจโลกด้วย จนจีนต้องเร่งยุติมาตรการล็อกดาวน์ “เซี่ยงไฮ้” เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด
นางซง หมิง รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ แถลงในวันนี้ว่า เซี่ยงไฮ้วางแผนที่จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย. ที่กำลังจะถึง เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ประชากรกว่า 25 ล้านคนของเซี่ยงไฮ้ อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานาน จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจจีน โดยล่าสุดในวันนี้ ทางการจีนเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ร่วงลงแล้วกว่า 11.1% ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 6.1% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ก็ลดลง 2.9% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.4%
“ตราบใดที่เราสามารถควบคุมความเสี่ยง ไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นได้ เราอาจจะยุติมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ เพื่อให้การผลิตและการดำเนินชีวิตของประชาชนในเซี่ยงไฮ้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ส่วนการที่เซี่ยงไฮ้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ด้วยการอนุญาตให้ธุรกิจบางส่วนเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่วันนี้ (16 พ.ค.) นั้น เราจะดำเนิการเป็นขั้นเป็นตอน โดยจะยังคงควบคุมการเดินทางส่วนใหญ่ไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค. เพื่อไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และจากนั้นเราจะดำเนินการผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป” นางซงกล่าวในแถลงการณ์
ทั้งนี้ นางซงระบุเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 พ.ค. เป็นต้นไป ผู้ให้บริการรถไฟของจีนจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวรถไฟทั้งขาเข้าและขาออกจากเซี่ยงไฮ้ รวมถึงสายการบินต่าง ๆ ที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนการให้บริการรถประจำทางจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. (สัปดาห์ถัดไป) แต่ประชาชนจะต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบ โดยตรวจในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนใช้บริการ
ก่อนหน้านี้ นายเฉิน ตง รองนายกเทศมนตรีอีกคนของนครเซี่ยงไฮ้ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า เซี่ยงไฮ้จะอนุญาตให้ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านทำผม เริ่มกลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้ง ในวันนี้ (16 พ.ค.) เป็นต้นไป หลังจากที่ธุรกิจเหล่านี้ถูกล็อกดาวน์เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ของรัฐบาลจีน
โดยนายเฉินกล่าวว่า ห้างสรรสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านทำผม จะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ภายใต้มาตรการดูแลอย่างรัดกุม ครอบคลุมถึงการจำกัดจำนวนผู้รับบริการด้วย ส่วนตลาดค้าผักผลไม้และสินค้าเกษตร จะอนุญาตให้เปิดดำเนินการภายใต้ข้อกำหนด “ห้ามสัมผัส” ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมซื้อขาย ขณะที่ภัตตาคารจะได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการสำหรับลูกค้าที่ซื้ออาหารกลับบ้านเท่านั้น
ด้านชาวเซี่ยงไฮ้ที่ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานนั้น จะต้องอยู่ภายใต้ระบบปิด เช่นเดียวกับที่เคยบังคับใช้ในสมัยที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง หมายความว่าประชาชนเหล่านี้ จะไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ ต้องพักอาศัยอยู่ในที่ทำงาน