Henley & Partners เปิดรายชื่อพาสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดในโลก โดยวัดจากจำนวนประเทศที่ถือพาสปอร์ตเข้าได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า ‘ญี่ปุ่น’ ยืนหนึ่ง เข้าได้ 193 ประเทศ หรือประมาณ 99% ของประเทศทั่วโลก ส่วนอัฟกานิสถานรั้งท้าย เข้าได้เพียง 27 ประเทศ
ปัจจุบันหลังการระบาดของโควิดลดความรุนแรงลง ประชาชนในเกือบทุกประเทศทั่วโลกสามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศกันได้อย่างอิสระแล้ว แต่ก่อนเข้าหลายๆ คน รวมไปถึงคนไทยเองก็ต้องขอวีซ่า หรือใบอนุญาตเข้าประเทศก่อน ในกรณีที่ประเทศนั้นๆ ไม่มีการยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือพาสปอร์ตของประเทศเรา
แต่ถึงการขอวีซ่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของชาวไทย รู้หรือไม่ว่ามีผู้ถือพาสปอร์ตบางประเทศที่แทบไม่ต้องเสียเวลา หรือปวดสมองกับการขอวีซ่าเลย โดยในขณะที่ในปัจจุบันในโลกมีประเทศอยู่ทั้งหมด 195 ประเทศ ผู้ถือพาสปอร์ตเหล่านี้ เข้าไปได้แล้วถึง 188-193 ประเทศ!
จากข้อมูลของ Henley & Partners บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำในระดับนานาชาติ พาสปอร์ตที่ผู้ถือสามารถเดินสบายๆ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องขอวีซ่ามาโชว์ได้มากที่สุดในโลกคือพาสปอร์ตจากประเทศดังต่อไปนี้
โดยจะเห็นได้ว่า ‘ญี่ปุ่น’ ยังครองสถานะประเทศที่มีพาสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดในโลกอยู่ โดยผู้ถือพาสปอร์ตญี่ปุ่นสามารถเข้าประเทศทั่วโลกได้ถึง 193 ประเทศ ตามมาด้วยประเทศที่มีมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจสูงมากอย่าง สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ก่อนจะเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ส่วน ‘ประเทศไทย’ นั้นอยู่ในลำดับที่ 68 โดยเราสามารถเดินทางเข้า 78 ประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีพาสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดในโลกแล้วก็ต้องมีพาสปอร์ตอ่อนแอที่แทบจะใช้เข้าที่ไหนไม่ได้เลยหากไม่มีวีซ่า โดยประเทศที่พาสปอร์ตมีสิทธิผ่านเข้าประเทศอื่นๆ น้อยที่สุดจากการจัดอันดับของ Henley & Partners มีดังนี้
โดยจะเห็นได้ว่าประเทศต่างๆ ที่พาสปอร์ตมีอำนาจต่ำนั้นมักจะเป็นประเทศที่มีความขัดแย้งทั้งภายในและระหว่างประเทศสูง ทำให้นอกจากประเทศเหล่านี้มักจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ย่ำแย่กับประเทศอื่นแล้ว ยังมีความวุ่นวายในประเทศที่อาจเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนในประเทศเหล่านี้ ‘หลบหนี’ เป็นผู้ลี้ภัยในประเทศอื่นสูง
ถือพาสปอร์ต ‘ญี่ปุ่น’ ไปไหนก็ได้ แต่คนญี่ปุ่น 35% ไม่อยากเที่ยวต่างประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้ถือพาสปอร์ตญี่ปุ่นจะมีความสะดวกสบายเพราะเหมือนมีบัตรผ่านที่ทำให้อยากไปเที่ยวที่ไหนก็เที่ยวได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก สิทธิพิเศษนี้้อาจไม่มีประโยชน์สำหรับชาวญี่ปุ่นบางคนเสียแล้ว เพราะจากการสำรวจของ Morning Consult บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลจากสหรัฐฯ ชาวญี่ปุ่นติดอันดับ 1 ผู้ที่ไม่อยากออกไปเที่ยวต่างประเทศแล้วมากที่สุด
โดยจากการสำรวจ ประชาชนกลุ่มที่คิดว่าตัวเองไม่น่าจะออกไปเที่ยวต่างประเทศแล้วในชีวิตนี้มากที่สุด 3 อันดับก็คือ 1. ญี่ปุ่น (35%) 2. เกาหลีใต้ (15%) และ 3. จีน (14%) โดยให้เหตุผลว่าต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเดินทาง โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพและโรคติดต่อ รวมไปถึงคิดว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของ CNBC สาเหตุที่คนญี่ปุ่นในขณะนี้ไม่อยากออกไปเที่ยวต่างประเทศมากนักอาจเป็นเพราะค่าเงินเยนที่อ่อนลง ซึ่งเท่ากับว่าคนญี่ปุ่นจะต้องใช้เงินในจำนวนที่มากขึ้นหากตัดสินใจออกไปเที่ยวต่างประเทศในขณะนี้
นอกจากนี้คนญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ ‘ติดประเทศ’ อยู่แล้ว โดยในปี 2019 มีคนญี่ปุ่นเพียง 23% ทั่วประเทศเท่านั้นที่มีพาสปอร์ต ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม G7 และระหว่างปี 2000-2017 มีคนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางออกท่องเที่ยวนอกประเทศประมาณ 18 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากในระยะเวลาถึง 7 ปี โดยสาเหตุสำคัญคือกำแพงด้านภาษา และตารางวันหยุดที่ทำให้ลาไปเที่ยวยาวๆ ยาก
ที่มา: Henley & Partners, CNBC