ไม่นานมานี้ คุณ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Meta เจ้าของแพลตฟอร์มที่เราใช้กันอยู่ทุกวันอย่าง Facebook, Instagram
ได้ออกมาบอกว่าจะลดการควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มในเครือลง และให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า บริษัทที่ชื่อ Meta ทำธุรกิจอะไรบ้าง ? Infographic นี้สรุปมาให้แล้ว
จุดเริ่มต้นของ Meta เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ด 4 คน
โดยมีคุณ Mark Zuckerberg เป็นผู้ก่อตั้งร่วมกันกับเพื่อนในมหาวิทยาลัยอีก 3 คน
ที่ร่วมกันเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับสร้างเครือข่ายผู้คนที่มีชื่อว่า Facebook ขึ้นมา
ในตอนนั้น Facebook ถูกใช้อยู่แค่ในกลุ่มนักเรียนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ก่อนที่จำนวนผู้ใช้งานจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนขยายออกไปนอกรั้วมหาวิทยาลัย
การเติบโตของ Facebook ในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์สำคัญ เพราะในเวลาแค่ปีเดียว แพลตฟอร์ม Social Media นี้ก็มีผู้ใช้งานมากถึง 1,000,000 ราย
ซึ่งที่มาของสมการความสำเร็จนี้ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า Network Effect หรือปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งาน 1 คน ชวนคนอื่นต่อกันไปเรื่อย ๆ
ตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น เรามีเพื่อน 2 คนใช้แอปพลิเคชัน Line คุยกัน แต่ถ้าเราไม่โหลด Line มาใช้เพื่อนก็จะติดต่อเราได้ลำบาก
จนสุดท้ายเราก็ต้องโหลดมาใช้ด้วย ซึ่งการที่เราทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าคนอื่นที่จะคุยกับเราก็ต้องโหลดต่อกันไปเรื่อย ๆ จนแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง
กลับมาที่เรื่องเดิมกันต่อ หลังจากที่ Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานโตระเบิด ความสำเร็จตรงนี้ก็ได้ไปเตะตานักลงทุนและนักธุรกิจชื่อดังอย่าง Peter Thiel เข้า
โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Paypal บริษัทเทคโนโลยีชำระเงินออนไลน์ทั่วโลกร่วมกับคุณ Elon Musk ซีอีโอคนปัจจุบันของ Tesla
โดยคุณ Peter Thiel ได้เข้าลงทุนใน Facebook ด้วยเงินจำนวนทั้งหมด 17 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากที่เข้าลงทุนแล้ว Facebook ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 1 ล้านคน ก็กลายเป็น 100 ล้าน จนสุดท้ายก็ได้กลายเป็น 3,000 ล้านคน ในวันนี้
หรือเรียกได้ว่าคนเกือบครึ่งโลกกำลังใช้ Facebook อยู่นั่นเอง..
และนอกจาก Facebook แล้ว Meta ยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มชื่อดังอื่น ๆ อีก อย่างเช่น
- Instagram แพลตฟอร์มแชร์รูปภาพและเรื่องราว
- Threads แพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับ Twitter
- Messenger แพลตฟอร์มแชตส่งข้อความ
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Facebook กลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากถึง 53 ล้านล้านบาท มากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก
เรียกได้ว่าใครที่เห็นโอกาสการเติบโตของ Meta ในวันนั้นก็จะได้กำไรอย่างงดงาม
และหนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นคุณ Peter Thiel ที่เห็น Facebook ตั้งแต่ช่วงตั้งไข่ และได้เข้าลงทุนตั้งแต่วันนั้น..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณ Peter Thiel ได้ขายหุ้น Facebook ส่วนใหญ่ออกไปในปี 2012 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท
ซึ่งถ้าเทียบกับจำนวนเงินที่เขาลงทุนก็จะเท่ากับว่าเขาได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้ไป 1,763 เด้ง ในเวลาแค่ 8 ปีเท่านั้น..
สรุปข้อมูลใน Infographic
- Meta Platforms, Inc
- ปี 2004 (21 ปีที่แล้ว)
- อเมริกัน
- คุณ Mark Zuckerberg
- แพลตฟอร์มโซเชียลมิเดีย, AI, แว่น VR และ อื่น ๆ
- Messenger
- Threads
- Meta AI
- Workplace
- โฆษณา 4,575,000 ล้านบาท
- ธุรกิจ VR (Reality Labs) 65,730 ล้านบาท
- รายได้อื่น 36,680 ล้านบาท
- ปี 2021 รายได้ 4,089,000 ล้านบาท กำไร 1,356,000 ล้านบาท
- ปี 2022 รายได้ 4,043,000 ล้านบาท กำไร 804,000 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 4,677,000 ล้านบาท กำไร 1,365,000 ล้านบาท
- 50,320,000 ล้านบาท
ที่มา:
-https://www.cnbc.com/2022/02/07/peter-thiel-to-step-down-from-facebook-board.html
- More Speech and Fewer Mistakes | Meta
-https://quartr.com/insights/company-research/the-rise-of-meta-from-dorm-room-to-global-dominance
- yahoo.finance.com, รายงานประจำปีของบริษัท