เวียดนามยังคงเป็นดาวเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 ที่ 6.9% ในไตรมาสที่สอง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการปรับตัวของประเทศ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จนี้ยังมีความท้าทายและปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปสำรวจภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบัน ถึงปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ แนวโน้มในอนาคต และความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ เราจะพิจารณาถึงบทบาทที่สำคัญของการลงทุนจากจีน ซึ่งได้กลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนจากจีน เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจของเวียดนามได้อย่างรอบด้านและครบถ้วน
เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก และสูงกว่าการเติบโตในไตรมาสแรกที่ 5.9% โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นผลจากความชัดเจนทางการเมืองที่มากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
การเติบโตของ GDP เวียดนาม (%YoY)
ไตรมาส | ปี | % การเติบโต |
1Q | 2023 | 3.4 |
2Q | 2023 | 4.3 |
3Q | 2023 | 5.5 |
4Q | 2023 | 6.7 |
1Q | 2024 | 5.9 |
2Q | 2024 | 6.9 |
ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจของเวียดนาม (% YoY)
ดัชนีชี้วัด | 1Q2024 | 2Q2024 |
ยอดค้าปลีก | 8.6 | 9.2 |
การลงทุนภาครัฐ | 0.9 | 3.2 |
FDI Registered Capital | 13.4 | 12.8 |
การส่งออก | 11.5 | 16.7 |
การนำเข้า | 14 | 19.2 |
ถึงแม้จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก แต่ KResearch คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น
นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นักลงทุนจีนได้หันมาให้ความสนใจกับเวียดนามมากขึ้น นักลงทุนจีนให้ความสนใจลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมในเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
การเติบโตของการลงทุนจากจีนในเวียดนามเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่าในจีน สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลเวียดนาม และความตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่เวียดนามได้เข้าร่วม นอกจากนี้ สงครามการค้ายังเป็นปัจจัยเร่งให้บริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทจีน ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากจีนในเวียดนามก็มีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษา กฎระเบียบที่ซับซ้อน และความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาจีนมากเกินไป โดยรวมแล้ว การลงทุนจากจีนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนาม และคาดว่าจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไปในอนาคต
สรุปแม้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เวียดนามจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงและความท้าทายที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น มาตรการกีดกันทางการค้า และปัจจัยภายใน เช่น ปัญหาหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ การที่เวียดนามจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ รวมถึงการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลก
ในขณะเดียวกัน การลงทุนจากจีนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม ก็ยังคงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองต่อไป แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่โอกาสในการเติบโตและพัฒนาจากการลงทุนจากจีนนั้นก็มีอยู่มาก หากเวียดนามสามารถบริหารจัดการความสัมพันธ์กับจีนได้อย่างเหมาะสม และใช้ประโยชน์จากการลงทุนจากจีนอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ที่มา KResearch