ข่าวเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจอาเซียน ก.ย. 67 ผันผวน อินโดนีเซียโตสวน, เวียดนานเจอความท้าทาย

4 ก.ย. 67
เศรษฐกิจอาเซียน ก.ย. 67 ผันผวน อินโดนีเซียโตสวน, เวียดนานเจอความท้าทาย

ภูมิภาคอาเซียนกำลังเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความผันผวนทางเศรษฐกิจ ขณะที่อินโดนีเซียยังคงรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่ง เวียดนามกลับต้องเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของสถานการณ์เศรษฐกิจใน 2 ประเทศหลักของอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ที่ทำการค้ากับประเทศ จีน

เศรษฐกิจอาเซียน ก.ย. 67 ผันผวน อินโดนีเซียโตสวน, เวียดนานเจอความท้าทาย

เศรษฐกิจอาเซียน ก.ย. 67 ผันผวน อินโดนีเซียโตสวน, เวียดนานเจอความท้าทาย

ภาพรวมเศรษฐกิจในเอเชียกำลังเผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอน ในขณะที่อินโดนีเซียยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เวียดนามและจีนกลับเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกัน โดยเราจะเจาะลึกข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจถึงความแตกต่างและความท้าทายที่แต่ละประเทศกำลังเผชิญ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

อินโดนีเซียยังแกร่ง! เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง 2567 คาดโตต่อเนื่อง 5% รับแรงหนุนนโยบายรัฐ-บริโภคคึกคัก

เศรษฐกิจอินโดนีเซียยังคงแสดงสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2 ปี 2567 เศรษฐกิจขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับการเติบโตในไตรมาสแรก ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะยังคงรักษาระดับการเติบโตได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ 5%

ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ

  • การบริโภคภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่ง: การบริโภคภายในประเทศยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจอินโดนีเซีย โดยในไตรมาส 2 มีการขยายตัว 5.1% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังซื้อที่ฟื้นตัว
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล: รัฐบาลอินโดนีเซียยังคงดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.9% ในไตรมาส 2
  • อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในกรอบเป้าหมาย: อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำและควบคุมได้ช่วยสนับสนุนการบริโภคและการลงทุน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ในอนาคต
  • ค่าเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าขึ้น: ค่าเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและเพิ่มความน่าสนใจของการลงทุนในอินโดนีเซีย

แนวโน้มในอนาคต

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามกำลังเผชิญกับความท้าทายในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยการส่งออกสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกของประเทศขยายตัวในระดับที่ลดลง

โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจอินโดนีเซียยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากปัจจัยสนับสนุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและภาคธุรกิจจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายต่างๆ เพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ส่งออกเวียดนามไตรมาส 3/2567 สะดุด! คอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์ฉุด แต่สินค้าอื่นยังโต

เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาส 3 ปี 2567 ส่งสัญญาณชะลอตัวลง โดยเฉพาะในภาคการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติเวียดนามบ่งชี้ว่า การส่งออกในเดือนกรกฎาคม 2567 หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าสำคัญอย่างคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

แรงฉุดจากภาคส่งออก

  • คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: ภาคส่วนนี้ซึ่งเคยเป็นดาวเด่นในการขับเคลื่อนการส่งออกของเวียดนาม กลับหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีสัดส่วนการเติบโตลดลงจาก 3.3% ในช่วงครึ่งแรกของปี มาอยู่ที่ -4.8% สาเหตุสำคัญมาจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนของสหรัฐฯ ต่อแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตในเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยรวม
  • โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน: แม้ว่าภาคส่วนนี้จะยังคงมีการเติบโต แต่ก็ชะลอตัวลงจาก 20.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี มาอยู่ที่ 1.7% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่ลดลงในตลาดโลก

สัญญาณบวกจากภาคส่วนอื่น

  • สินค้าอื่นๆ: กลุ่มสินค้าอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอุตสาหกรรม กลับมีการเติบโตที่โดดเด่น โดยขยายตัว 3.4% ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี
  • การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI): แม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัว แต่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงไหลเข้ามาในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของประเทศ

ภาพรวมและแนวโน้ม

เศรษฐกิจเวียดนามกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการชะลอตัวของภาคส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยภายนอกและมาตรการกีดกันทางการค้า อย่างไรก็ตาม ภาคส่วนอื่นๆ ยังคงแสดงสัญญาณการเติบโตที่ดี

รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการส่งออกในภาคส่วนที่มีศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอิเล็กทรอนิกส์ และรักษาโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากนี้ การกระจายความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดียิ่งขึ้น

เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในไตรมาส 3 ปี 2567 รัฐบาลเร่งเครื่องนโยบายการคลังพยุงเป้าหมาย 5%

เศรษฐกิจอาเซียน ก.ย. 67 ผันผวน อินโดนีเซียโตสวน, เวียดนานเจอความท้าทาย

เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2567 โดยข้อมูลจากภาพแสดงให้เห็นถึงสัญญาณชะลอตัวที่ชัดเจนในหลายภาคส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่หดตัว การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ลดลง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้รัฐบาลจีนต้องเร่งเครื่องนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพยายามบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ตามที่ตั้งไว้

สัญญาณเตือนจากภาคส่วนต่างๆ

  • การส่งออก: ภาคส่งออกซึ่งเคยเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความต้องการสินค้าที่ลดลงทั่วโลก
  • FDI: การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากภาพแสดงให้เห็นว่า FDI ในเดือนกรกฎาคม 2567 ติดลบ 0.08 ล้านล้านหยวน ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของจีน
  • ภาคอสังหาริมทรัพย์: แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นในภาคส่วนนี้ได้เต็มที่
  • สินเชื่อ: ยอดปล่อยสินเชื่อในเดือนกรกฎาคม 2567 ลดลงเหลือ 0.34 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 19 ปี บ่งชี้ถึงความต้องการสินเชื่อที่อ่อนแอทั้งจากภาคธุรกิจและครัวเรือน

นโยบายการคลังเร่งเครื่อง

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ รัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

  • การลงทุนภาครัฐ: คาดว่ารัฐบาลจะเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • การลดภาษีและค่าธรรมเนียม: มาตรการลดภาระทางภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน

นโยบายการเงินผ่อนคลาย

นอกจากนโยบายการคลังแล้ว ธนาคารกลางจีนยังมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าในเดือนกรกฎาคม 2567 จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต

แนวโน้มและความท้าทาย

เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5% แต่ก็ยังมีความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ภาคธุรกิจและนักลงทุนควรติดตามความเคลื่อนไหวของนโยบายเศรษฐกิจของจีนอย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบต่อธุรกิจและการลงทุนของตนเองอย่างรอบคอบ

บทสรุป

ภาพรวมเศรษฐกิจอาเซียนมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน อินโดนีเซียยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ขณะที่เวียดนามและจีนเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ทั้งเวียดนามและจีนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรักษาเสถียรภาพและการเติบโต นักลงทุนและภาคธุรกิจควรติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิด

ที่มา KResearch

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT