รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวในปี 2568 โดย ททท. เตรียมเสนอแผนเชิงลึกภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งอาจรวมถึงการฟื้นคืนชีพโครงการยอดฮิตอย่าง "เราเที่ยวด้วยกัน" และ "คนละครึ่ง" เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและดึงดูดนักท่องเที่ยว
คนละครึ่ง - เราเที่ยวด้วยกัน อาจกลับมา เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวปี 68
ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวในปี 2568 โดย ททท. จะนำเสนอรายละเอียดเชิงลึกภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยเน้นย้ำการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และพิจารณาความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูโครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' และ 'คนละครึ่ง' หากเป็นประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี และมั่นใจว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงจากดัชนีชี้วัดและการจัดอันดับต่างๆ ในระดับสากล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการเดินทางมายังประเทศไทย
ททท. จะนำเสนอภาพรวมตลาดท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ และแนวทางในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เช่น ระบบชำระเงินไร้เงินสดที่เชื่อมต่อกับต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับจะพิจารณาในประเด็นนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่ได้ปิดโอกาสในการฟื้นฟูโครงการเดิม หากเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอื่นๆ ในขณะนี้
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเป้าหมายการท่องเที่ยว ททท. มั่นใจนักท่องเที่ยวทะลุ 25 ล้านคน
ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลกำหนดไว้ ทั้งในด้านรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีความท้าทายจากสถานการณ์โลกและภัยพิบัติต่างๆ ททท. ยังคงมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปิดเส้นทางบินใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ททท. ตระหนักถึงความท้าทายในการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
แม้จะมีอุปสรรค ททท. ยังคงมุ่งมั่นที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ตามเป้าหมาย 30-35 ล้านคน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มตลาดหลัก ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย และรัสเซีย รวมถึงกลุ่มตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น กลุ่มประเทศ CIS ซาอุดีอาระเบีย ลาว เวียดนาม และกลุ่มยุโรป อเมริกา
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใกล้ 25 ล้านคนแล้ว และ ททท. เชื่อมั่นว่าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหลืออีก 3 เดือนครึ่ง จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
หากการกลับมาของ "เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
การพิจารณาฟื้นฟูโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" และ "คนละครึ่ง" ในปี 2568 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โครงการทั้งสองนี้เคยประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวภายในประเทศมาแล้วในช่วงวิกฤตโควิด-19 การกลับมาของโครงการนี้อีกครั้งจึงมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน
1.กระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายภายในประเทศ
- โครงการ "คนละครึ่ง" จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร และบริการต่างๆ
- โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พัก ทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
2. ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ:
- การลดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น จะนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
3. ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- โครงการเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจะช่วยเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย
4. สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ
- การกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้
ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการเหล่านี้จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
- ภาระงบประมาณ: รัฐบาลต้องบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้สาธารณะ
- การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: ควรมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้การช่วยเหลือตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- การป้องกันการทุจริต: ต้องมีมาตรการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าเงินงบประมาณถูกนำไปใช้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
ดังนั้น การฟื้นฟูโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" และ "คนละครึ่ง" ถือเป็นมาตรการที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการต้องทำอย่างรอบคอบ รัดกุม และโปร่งใส เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและประชาชนโดยรวม