เพชร นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่สวยงามเลอค่า มีราคาแล้ว หลายคนให้ความสนใจในรูปแบบของการลงทุนด้วย โดย “เพชร” อยู่ในฐานะการลงทุนทางเลือกหรือเพื่อการกระจายความเสี่ยง ทีมงาน SPOTLIGHT มีข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารธุรกิจจำหน่ายเพชร ระบุว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด อย่างปี 2564 ราคาเพชรเติบโตขึ้นถึง 27.4% และยังรักษาการเติบโตในปี 2565
CNBC รายงานอ้างข้อมูลจาก Global Rough Diamond Price Index ระบุว่า ขณะนี้ราคาเพชรปรับตัวลง 18% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำสถิติไว้ในเดือนก.พ. 2565 และนับตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงขณะนี้ ราคาเพชรลดลงไปแล้ว 6.5% ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงตลาดเพชรคาดการณ์ว่า มูลค่าของเพชรอาจจจะลดลงอีกในอนาคต
ด้านพอล ซิมมินสกี ซีอีโอของบริษัท Paul Zimnisky Diamond Analytics ระบุว่า ราคาเพชรคุณภาพดี 1 กะรัตเคยมีราคาอยู่ที่ 6,700 ดอลลาร์ หรือราว 234,500 บาทเมื่อปีที่แล้ว แต่ในวันนี้ เพชรคุณภาพเดียวกันมีราคาขายอยู่ที่ 5,300 ดอลลาร์หรือ 185,500 เท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Bain & Company และบริษัท Angara Jewelry วิเคราะห์ว่า ราคาเพชรที่พุ่งขึ้นแรงใน 2 ปีที่ผ่านมาเกิดจากเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โควิด 19 เมื่อหลายประเทศกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ราคาเพชรก็เริ่มทรงตัว และร่วงลงรุนแรงในเวลาต่อมา"
"ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้น ผมคาดว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้า ราคาเพชรธรรมชาติจะดิ่งลงหนักสุดประมาณ 20-25% จากระดับปัจจุบัน ซึ่งหากเป็นไปตามคาด ก็เท่ากับว่าราคาเพชรจะดิ่งลงรุนแรงถึง 40% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนก.พ." Ankur Daga ซีอีโอของ Angara Jewelry คาดการณ์ไว้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาเพชรแท้ปรับลดลง มาจากการแข่งขันในตลาดเพชรสังเคราะห์ที่มีดุเดือดมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคเพชรรายใหญ่ยังฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดเพชรซบเซาลง รวมถึง ต้นทุนด้านแรงงานที่พุ่งสูงขึ้นก็เป็นผลกระทบสำคัญต่อกระบวนการผลิตเพขรเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นหันไปซื้อเพชรสังเคราะห์ ทำให้เพชรสังเคราะห์มีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเพชรธรรมชาติ โดยในปี 2563 ส่วนแบ่งตลาดของเพชรสังเคราะห์มีเพียง 2.4% แต่นับตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงขณะนี้ ส่วนแบ่งตลาดของเพชรสังเคาะห์พุ่งขึ้นเป็น 9.3% แล้ว ซึ่ง็มาจากราคาเพชรที่ถูกกว่าเพชรธรรมชาตินั่นเอง
ส่วนกรณีที่เพชรของรัสเซียถูกคว่ำบาตรโดยชาติสมาชิกกลุ่ม G7 นั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะไม่เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาเพชรพุ่งขึ้น โดยซิมมินสกีกล่าวว่า รัสเซียเร่งนำเพชรออกมาจำหน่ายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดที่เคยเสียไปในปีที่แล้วหลังจากการซื้อขายหยุดชะงักลง และเขาคาดว่ารัสเซียจะไม่มีปัญหาในการขายเพชรแม้ว่าจะถูกคว่ำบาตร ตราบใดที่กลุ่มผู้ซื้อยังคงชื่นชอบเพชรของรัสเซีย
ทั้งนี้ หลายประเทศ เช่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแม้กระทั่งสหภาพยุโรป ไม่ได้คว่ำบาตรการนำเข้าเพชรรัสเซีย" ซิมมินสกีกล่าว โดยอินเดียเป็นประเทศที่นำเข้าเพชรมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก รองลงมาคือสหรัฐ ฮ่องกง เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ที่มา CNBC