Titanic กำลังจะถูก Netflix หยิบมาฉายใหม่อีกครั้งหลังเหตุสะเทือนขวัญของ ‘เรือดำน้ำ Titan’ และ 5 ผู้กล้า ที่ดำลงไปชมความยิ่งใหญ่ของเรือ Titanic แต่ไม่มีโอกาสได้กลับขึ้นมา
คงมีภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่แม้ผ่านไปกว่า 2 ทศวรรษ ก็ยังเป็นที่รักของผู้ชม และขึ้นแท่น ‘1ในหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล’ Spotlight ขอพาทุกคนกลับไปเยี่ยมชมอนุสรณ์แห่งความรักของ Jack กับ Rose ผ่าน 5 เรื่องจริงของ Titanic กัน
ภาพยนตร์ Titanic ออกฉายครั้งแรกในเดือนธันวาคม 1997 ใช้ทุนสร้างทั้งหมด 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.06 พันล้านบาท) / ปัจจุบันทำรายได้รวม 2,265 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 8 หมื่นล้านบาท) คิดเป็นรายได้ในสหรัฐ 674 ล้านดอลลาร์ และ รายได้จากการฉายทั่วโลก 1,590 ล้านบาท มีรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยใน 5 อันดับแรก เป็นหนังของผู้กำกับ James Cameron ไปแล้ว 3 เรื่อง คือ Titanic (อันดับที่ 4) และ Avatar (อันดับที่ 1) และ Avatar: The Way of Water (อันดับที่ 3)
นอกจาก James Cameron จะเป็นผู้กำกับมือทองเจ้าของหนังรายได้สูงสุดถึง 3 เรื่องแล้ว ผู้กำกับรางวัลออสการ์คนนี้ ยังเป็นนักดำน้ำมือโปร ผู้ดำลงไปสำรวจโลกใต้ทะเลด้วยเรือดำน้ำขนาดเล็กมากว่า 70 ครั้ง ตัวเขาเองได้ดำลงไปสำรวจซากเรือ Titanic ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ไททานิกรวมทั้งหมด 33 ครั้งเลยทีเดียว โดยเรือดำน้ำขนาดเล็กที่ James และทีมงานใช้ลงไปถ่ายทำซากเรือ Titanic จริงๆ ในซีนแรกที่ปรากฏในหนัง คือ เรือดำน้ำ Mir (เมียร์) มีลักษณะเป็นทรงกลม ทำจากไทเทเนียม ออกปฏิบัติการคู่กันสองลำ ลำหนึ่งเพื่อศึกษาและถ่ายภาพ อีกลำเพื่อดูแลความปลอดภัย
นอกจากนี้ James เคยเป็นผู้ครองสถิติดำน้ำด้วยเรือดำน้ำขนาดเล็กแบบคนเดียว ลงไปสำรวจ ‘Challenger Deep’ จุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรเท่าที่มนุษย์รู้จักในปี 2012 ที่ระดับความลึก 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) และ James Cameron ยังมีภาพยนตร์และสารคดีที่เล่าถึงก้นทะเลลึกอีกหลายเรื่อง อาทิ The Abyss, Sanctum, Deepsea Challenge, The dive ฯลฯ สะท้อนความคลั่งไคล้และความเชี่ยวชาญที่เขามีต่อโลกใต้มหาสมุทรอย่างแท้จริง
รางวัล Academy Award หรือรางวัลออสการ์ เป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของทีมงานและนักแสดง ซึ่งสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Titanic นี้ ถูกเสนอเข้าชิงถึง 14 รางวัล และคว้าไปถึง 11 รางวัลด้วยกัน อาทิ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, เทคนิคสมจริงยอดเยี่ยม ฯลฯ
แต่สิ่งที่สร้างตำนานให้กับ Titanic คือ การถูกเสนอเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในบทบาทเดียวกัน คือบท ‘Rose Dewitt Bukater’ นางเอกของเรื่อง หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมของเรือ RMS Titanic ที่ในวัยสาว รับบทโดย Kate Winslet และในวัยชรา รับบทโดย Gloria Stuart นับเป็นภาพยนตร์เพียง 1 ใน 2 เรื่องของประวัติศาสตร์ออสการ์ ที่ถูกเสนอชื่อ 2 รางวัลในบทบาทเดียวกัน อีกเรื่องหนึ่งคือ Iris ซึ่ง Kate Winslet นำแสดงด้วยเช่นกัน
เรือ Titanic มีน้ำหนักกว่า 5 หมื่นตัน หน้ากว้าง 28 เมตร เทียบเท่ารถยนต์ 6 คัน ยาว 269 เมตร เทียบเท่า รถยนต์เกือบ 60 คัน เทพีเสรีภาพเกือบ 3 ชิ้นต่อกัน ใช้ทุนสร้างราว 7.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 265 ล้านบาท
ชื่อของเรือ Titanic นั้น มีความหมายว่า ‘ใหญ่ยักษ์’ มีรากศัพท์มาจากชื่อของ ‘เทพไททัน’ เหล่าทวยเทพที่เป็นเจนพ่อ-แม่ ของเทพแห่งโอลิมปัส (ซูส, เฮรา, โพไซดอน ฯลฯ) มีเรือพี่น้องอีกสองลำชื่อ ‘โอลิมปิก’ (มาจากชื่อยอดเขาโอลิมปัส) และ ‘Britannic’ (มาจากชื่อเรียกหมู่เกาะบริเตนภาษาโรมันว่า Britannia)
ในวันที่เรือ Titanic แล่นออกจากท่าที่เมือง Southhampton สู่ปลายทาง (ที่ไปไม่ถึง) ที่เมือง New York นั้น มีลูกเรือและผู้โดยสารอยู่ทั้งหมด 2,240 คน ซึ่งจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 1,500 คน โดยมีเหล่ามหาเศรษฐี คนดัง ผู้มีหน้าตาในสังคม ชนชั้นสูงจำนไม่น้อย แต่หนึ่งคนที่รอดแบบหวุดหวิดคือ ‘J.P. Morgan’ ผู้ก่อตั้งสถาบันการเงินชื่อดัง ที่ติดธุระ เลยไม่ได้ไปโดยสารไปกับเรือด้วย
James Cameron พูดถึงโศกนาฏกรรมซ้ำรอยระหว่างเรือ Titanic กับ เรือ Titan ว่า เป็นสถานกาณ์ที่ความคล้ายคลึงกัน เรือไททานิคที่มีคนเตือนกัปตันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรื่องภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างหน้า แต่ก็ยังรั้นพุ่งหัวเรือไปแบบเต็มสปีด ในคืนที่ไร้ดวงจันทร์ นำไปสู่จุดจบอันน่าเศร้า ส่วนเรือไททัน ก็มีการเตือนเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยเช่นกัน
Titanic ถือได้ว่าเป็นหนังรักอมตะที่กาลเวลากว่า 25 ปีไม่สามารถทำให้หนังเรื่องนี้เสื่อมมนต์ขลังลงได้ ยิ่งมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือดำน้ำ Titan ด้วยแล้ว การกลับไปดูหนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นผ่านทาง Netflix, แผ่นดีวีดี หรือการฉายซ้ำในโรงภาพยนตร์จะให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และกลายเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตำนาน ‘Titanic’ ยังแล่นต่อไปในโลกของภาพยนตร์ แม้ตัวเรือจะจมไปกว่า 111 ปีแล้วก็ตาม
ที่มา : History, Imdb, National Geographic, Hollywood Reporter, Titanic Facts, Guinness World Records, Emma Cruises