ตลาดหุ้นไทยไปต่ออย่างไร หลังผลโหวตนายกฯ “พิธา” ไม่ผ่าน
Highlight
ไฮไลต์
“สถานการณ์ทางการเมืองยังคาดเดายากอยู่ ตอนนี้ก็มีกระแสข่าวที่จะแก้ไขกฎหมายที่จะทำให้ ส.ว.หยุดทำหน้าที่ในการโหวต ซึ่งต้องใช้เวลาการแก้กฎหมายเป็นเดือน ก็มีความเป็นไปได้ ทำให้เกิด over hang ทางการเมืองได้ด้วยเหมือนกัน”
แม้ผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกมาแล้วว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นนายกแล้วก็ตาม สถานการณ์การเมืองไทยจะไปในทิศทางไหน? เมื่อในวันที่ 19 ก.ค.นี้ จะมีการโหวตเลือกนายกฯ เป็นครั้งที่สอง ระหว่างนี้จะมีการเจรจาเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือไม่? พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อคนของพรรคเพื่อไทย?
คอนเทนต์แนะนำ
เกมส์การเมืองนี้จะไปจบที่ตรงจุดไหน? ระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลจะยาวนานแค่ไหน? จะมีการเมืองนอกสภา? มีการประท้วง มีความรุนแรง? หุ้นไทยจะไปต่ออย่างไร?
โดยตลาดหุ้นไทย ช่วงเช้านี้(14 ก.ค.66) พุ่งเกือบ 20 จุด อยู่ที่ 1,512.61 จุด เพิ่มขึ้น 18.59 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.24% ในช่วงเวลา 10.50 น. ขานรับก้าวไกลไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีโอกาสเปลี่ยนแคนิเดตนายกฯ มีสูง มีโอกาสกลับข้างเป็นพรรคเพื่อไทย
โดยหุ้นที่ปรับขึ้นในแดนบวก และปรับเพิ่มขึ้น คือ
- DELTA ราคา102.50 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือ 1.49%
- GULF ราคา 48.25 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.75 จุด หรือ 1.58%
- SCGP ราคา 38.75 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1.25 จุด หรือ 3.33%
- ADVANCE ราคา 220 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 2.00 จุด หรือ 0.92%
- TRUE ราคา 6.85 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.20 จุด หรือ 0.92%
วันนี้ SPOTLIGHT จะมาฟังมุมมองของนักวิเคราะห์กันว่า มีความเห็นต่อสถานการณ์ปัจจุบันกันอย่างไร
โดย เอกภาวิน สุนทราภิชาติ นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวกับ “SPOTLIGHT” ว่า “ตลาดหุ้นไทยเปิดในแนวบวก เนื่องจากตลาดชอบที่ พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นแกนนำ เพราะถ้าพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจะกระทบต่อกลุ่มทุนผูกขาด ซึ่งกลุ่มทุนผูกขาดจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือโรงไฟฟ้า และมองว่าก้าวไกลอาจจะมีความติดขัดและมี senerio ใหม่ขึ้นมา”
แต่การปรับขึ้นของหุ้นไทยขณะนี้ ปรับขึ้นบนความไม่มั่นใจอยู่ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังติดที่กรอบบนที่ประมาณ 1,520 จุด แต่ถ้าสามารถทะลุ 1,520 จุดไปได้ภาพก็จะดี แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอยู่ก็มีโอกาสปรับลดลงมา กรอบล่างที่ดัชนี 1,479 จุด
โดยสถานการณ์การเมืองคงต้องติดตามต่อในวันพุธที่ 19 ก.ค.2566 ว่าจะมีแนวทางอย่างอื่นหรือไม่ ทำให้โหวตผ่าน หรือทางฝั่งพรรคเพื่อไทย เป็นแคนดิเนตนายกฯ ให้สภาเลือกแทนหรือไม่? หรือมีการพูดคุยดีลอะไร? จะมีกระแสข่าวออกมาค่อนข้างเยอะ ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนอยู๋
“สถานการณ์ทางการเมืองยังคาดเดายากอยู่ ตอนนี้ก็มีกระแสข่าวที่จะแก้ไขกฎหมายที่จะทำให้ส.ว.หยุดทำหน้าที่ในการโหวต ซึ่งต้องใช้เวลาการแก้กฎหมายเป็นเดือน ก็มีความเป็นไปได้ ทำให้เกิด over hang ทางการเมืองได้ด้วยเหมือนกัน”
ภาพตลาดหลักทรัพย์ไทยจะมีการแกว่งในกรอบ side way เป็นไปตามสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน เป็นภาพของ “การไร้ทิศทาง” อยู่ โดยประเมินกรอบตลาดหุ้นกรอบล่าง 1,479 จุด กรอบบน 1,520 จุด ต้องเห็นการทะลุกรอบดัชนีหุ้นทางใดทางหนึ่งก่อน ถึงจะเห็นภาพชัดขึ้น โดยหากดัชนีทะลุ 1,520 จุด ก็จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ และแนวต้านที่ประมาณ 1,534 ช่วงถัดไป 1,555 จุด ถ้าหลุดกรอบล่าง 1,479 จุด มีโอกาส 1,460 จุด มองปรับลดลงจำกัดที่ 1,450 จุด เพราะแนวรับระดับนี้จะมีเรื่องของมูลค่าปัจจัยของมูลค่าหุ้นอยู่ จะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองไว้ในเรื่องการของจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 ขั้วใหม่ คือ ก้าวไกล รวมกับ เพื่อไทย รวมกันได้ 312 เสียง แต่ส.ว.ไม่เอาด้วย โหวตให้น้อยมาก ทำให้มีความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องดูว่าจะยังเป็นทางเลือกแรกมั้ย หรือจะเอาเพื่อไทยเสนอตัวเป็นนายกแทน แต่ส.ว.จะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะก้าวไกลก็ยังอยู่ เพราะอาจจะดันมาตรา 112 ก็ได้ เป็นเงื่อนไขหลักที่ไม่โหวตให้ ยังคงมีความไม่แน่นอนเหมือนกัน
ทางเลือกที่ 2 คือ ก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน และเพื่อไทย ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ ร่วมมือกัน แต่เสียงยังเกินกึ่งมานิดหน่อย ต้องหาพรรคอื่นมาร่วม ซึ่ง ส.ว.ก็จะโหวตให้ แต่ก็มีความเสี่ยง เรื่อง คนจะลงถนนหรือไม่ จะเกิดการประท้วง? ยังเป็นอะไรที่คาดการณ์ยากอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุน ลงทุนในหุ้นเมื่อราคาปรับตัวลงมา ไม่แนะนำให้ไล่ซื้อในช่วงราคาปรับขึ้นไป โดยแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ 6 บริษัท ดังนี้ BDMS CPALL GPSC GULF SIRI SC
