การบริโภคในจีนยังอ่อนแอ กระทบ Alibaba ทำให้รายได้โตเพียง 5% ต่ำกว่าคาด

‘Alibaba Group’ ประสบกับการเติบโตที่ชะลอตัวในธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลักในจีนในช่วงไตรมาสเดือนกันยายน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลประกอบการทางการเงินโดยรวม อย่างไรก็ตาม แม้เห็นการเติบโตที่ดีขึ้นในแผนกต่างประเทศ และแผนกคลาวด์ก็ตาม

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

สัมมนานานาชาติ 70 ปี วารสารศาสตร์ มธ. AI ไม่น่ากลัว แต่ต้องรู้เท่าทัน

ฟ้าสางที่นาบัว! นายกอบต. พร้อมพวกฉ้อโกงปชช.เสียหายนับ 100 ล้าน

การบริโภคในจีนยังอ่อนแอ กระทบ Alibaba ทำให้รายได้โตเพียง 5% ต่ำกว่าคาด

โดยในไตรมาสเดือนกันยายน รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 236,500 ล้านหยวน (32,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือประมาณ 1.14 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 58% เป็น 43,900 ล้านหยวน หรือราว 211,800 ล้านบาท โดยกำไรส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการลงทุน

ส่วนกลุ่มอีคอมเมิร์ซในประเทศอย่าง ‘Taobao’ และ ‘Tmall’ เติบโตเพียง 1% เป็น 99,000 ล้านหยวน หรือราว 477,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มอีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ เช่น ‘Lazada’ และ ‘AliExpress’ มีรายได้จากการขายปลีกเพิ่มขึ้น 35% ซึ่งดีกว่าทุกกลุ่มอื่นๆ ส่วนรายได้ของหน่วยคลาวด์ยังเติบโตกว่า 7% บ่งชี้ว่า บริษัทเริ่มได้ส่วนแบ่งการตลาดคืนมา หลังจากที่เสียให้กับคู่แข่งในรัฐ

ในขณะที่แผนกการประมวลผลบนคลาวด์ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ใหญ่เป็นอันดับสองของ Alibaba อยู่ที่ 29,600 ล้านหยวน หรือราว 142,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่ผ่านมา โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์คลาวด์สาธารณะเติบโตในระดับสองหลัก และรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เติบโตในระดับสามหลัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากการประกาศผลประกอบการเพียงไม่กี่ชั่วโมง หุ้นของ Alibaba ร่วงลงถึง 3.7% ระหว่างการซื้อขายที่นิวยอร์ก แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดจะแสดงสัญญาณเชิงบวก โดยยอดขายปลีกเติบโตในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 8 เดือน ทำให้สันนิษฐานว่า การลดลงของราคาหุ้นอาจเกิดจากปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวม เช่น ข่าวเฉพาะบริษัท หรือความเชื่อมั่นของตลาด

Eddy Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้พยายามพลิกฟื้นบริษัทมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Wu หวังว่า รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูผู้บริโภค โดยสะท้อนความคิดเห็นเช่นเดียวกับ ‘Tencent Holdings Ltd. และ ‘JD.com’ คู่ค้าของเขาเคยกล่าวไว้ด

ธุรกิจพาณิชย์ในประเทศของ Alibaba หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อยหนึ่งปี ในช่วงไตรมาสเดือนมิถุนายน ซึ่งตอกย้ำถึงความอึดอัดที่รุมเร้าประเทศ และผู้ค้าปลีกออนไลน์ชั้นนำ ทำให้ ‘Taobao’ และ ‘Tmall’ บริการอีคอมเมิร์ซของ Alibaba ได้เริ่มเรียกเก็บค่าบริการซอฟต์แวร์จากผู้ค้า เพราะการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ควบคู่ไปกับเครื่องมือการตลาดใหม่บนเว็บไซต์เรือธงของ Alibaba อาจช่วยเพิ่มรายได้ของแผนกหลักในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกด้วย Alibaba รายงานการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งสำหรับฤดูกาลชอปปิงวันคนโสดที่ยาวนานถึงหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นงานสำคัญที่บริษัทคิดค้นขึ้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีน

ส่วน ‘JD.com’ และ ‘Tencent’ ยังได้ระบุสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม แม้ทั้งคู่จะเตือนว่า การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จะต้องใช้เวลา ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า การขาดข้อมูลที่ครอบคลุมกำลังขัดขวางความพยายามในการวัดแนวโน้มของเศรษฐกิจ เหมือนที่ Alibaba ไม่ได้เปิดเผยยอดขายโดยรวมในช่วงเทศกาลวันคนโสด

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่อธุรกิจคลาวด์ของ Alibaba ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเป็นธุรกิจที่ให้บริการคอมพิวเตอร์แก่ลูกค้าองค์กร หลังจากหลายปีที่ขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจต่างๆ แผนกนี้ก็สามารถจัดการการเติบโตที่ไม่แน่นอนในไตรมาสที่ผ่านมาได้

ที่มา Bloomberg, Nikkei Asia