ตลาดหุ้นปี 68 เจอปัจจัยลบ! ต่างชาติเทขาย แนะ 4 หุ้นเด่นรับเศรษฐกิจฟื้น

นักวิเคราะห์คาดเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยเป็นปัจจัยลบที่สุด คาดดัชนีหุ้นไทยปี 2568 อยู่ที่ 1,556 จุด แนะหุ้น AOT, ADVANC, BDMS และ CPALL

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2568 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

ปัจจัยลบที่กระทบตลาดหุ้นไทย

1. เงินลงทุนต่างชาติไหลออก : นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ย 1.3-1.4 แสนล้านบาท 74.07% ของผู้ตอบแบบสำรวจมองว่าฟันด์โฟลว์ไหลออกเป็นปัจจัยลบสำคัญที่สุด

2. การเมืองในประเทศ : มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน โดย 69.23% ของผู้ตอบมองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง

3. การเมืองต่างประเทศ : รวมถึงการลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศเศรษฐกิจหลัก

คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปี 2568 ดัชนีเฉลี่ยทั้งปี: 1,581 จุด

จุดสูงสุด : 71.43% มองว่าอยู่ในช่วง 1,501-1,600 จุด 19.05% คาดอยู่ที่ 1,601-1,700 จุด

จุดต่ำสุด: เฉลี่ย 1,322 จุด

เป้าหมายสิ้นปี: เฉลี่ย 1,556 จุด

ปัจจัยบวก:

1. ทิศทางดอกเบี้ยในประเทศ

2. ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.)

3. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

คำแนะนำการลงทุน

นักวิเคราะห์แนะนำให้จัดสรรพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) อย่างเหมาะสม โดยเน้นการกระจายความเสี่ยง:

1. เงินสด/เงินฝากระยะสั้น: 10.72%

2. กองทุนตราสารหนี้: 22%

3. หุ้นต่างประเทศ/กองทุนหุ้นต่างประเทศ: 29.56%

4. หุ้นไทย/กองทุนหุ้นไทย: 22.52%

• เน้นกลุ่มค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง การท่องเที่ยว เทคโนโลยี และการสื่อสาร

5. ทองคำ/กองทุนทองคำ: 8.10%

6. อสังหาริมทรัพย์/กองทุนอสังหาฯ: 6.90%

7. สินทรัพย์อื่น (เช่น บิตคอยน์): 0.20%

หุ้นแนะนำ:

นักวิเคราะห์แนะนำหุ้นเด่นที่ได้รับการกล่าวถึงซ้ำกันมากที่สุด ได้แก่:

• AOT: ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

• ADVANC: ธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร

• BDMS: ธุรกิจโรงพยาบาลและการดูแลสุขภาพ

• CPALL: ธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข้อเสนอถึงรัฐบาล

นักวิเคราะห์เสนอให้รัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเน้น:

1. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: เสริมศักยภาพการแข่งขัน (50% ของผู้ตอบแบบสำรวจ)

2. สนับสนุนภาคธุรกิจ: เช่น ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ ลดภาษีนิติบุคคล และพัฒนาสินค้าเทคโนโลยี

3. ช่วยเหลือประชาชน: เช่น การแก้ปัญหาหนี้และพัฒนาด้านการศึกษา

สรุป : แม้ฟันด์โฟลว์ไหลออกและปัจจัยการเมืองจะเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยในปี 2568 แต่นักวิเคราะห์ยังมองว่าหุ้นไทยมีโอกาสเติบโตจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีก การท่องเที่ยว และการสื่อสาร