DeepSeek กำลังออกมาบอกว่าการพัฒนา AI อาจไม่ต้องใช้เงินและเวลามากอย่างที่ทุกคนคิดเพราะตัวมันเองเกิดขึ้นมาได้ ในเวลาแค่ 2 เดือน และ ใช้เงินในการพัฒนาไม่ถึง 200 ล้านบาท และที่สำคัญตัวมันใช้แค่ชิปประมวลผลตัวรองจาก Nvidia
หลังการเปิดตัวของ DeepSeek บริษัทพัฒนา AI สัญชาติจีนเพียงแค่ 2 เดือนก็เขย่าวงการ AI ของโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือตัวอย่างสภาพหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับชิปเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.68)
- Nvidia -16.7%
- TSM (TSMC) -13.3%
- AMD -6.4%
- ASML -7.0%
- ARM -10.2%
หลังการมาของ DeepSeek แช็ตบอทตอบคำถาม AI จากจีนคู่แข่ง ChatGPT, Gemini และแช็ตบอทตัวไหนก็ตามที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
โดย DeepSeek กำลังออกมาบอกว่าการพัฒนา AI อาจไม่ต้องใช้เงินและเวลามากอย่างที่ทุกคนคิดเพราะตัวมันเองเกิดขึ้นมาได้ ในเวลาแค่ 2 เดือน และ ใช้เงินในการพัฒนาไม่ถึง 200 ล้านบาท และที่สำคัญตัวมันใช้แค่ชิปประมวลผลตัวรองจาก Nvidia
ต่างจากหุ้นบิ๊กเทคที่ก่อนหน้า ทุ่มซื้อชิปจาก Nvidia กันเป็นล้านล้าน แสนล้าน จนนักลงทุนเก็งกันไปว่าจะกลายเป็นผู้ชนะด้าน AI จากความได้เปรียบเรื่องเงินทุน
การทุ่มเงินในการพัฒนา AI ของบรรดาบริษัทบิ๊กเทคฯทั้งหลายเป็นข่าวกันต่อเนื่อง เมื่อต้นเดือนนี้ Microsoft กล่าวว่าจะใช้จ่าย 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปี 2568 เพียงปีเดียว
ขณะที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทวางแผนที่จะลงทุนระหว่าง 60,000 ถึง 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในค่าใช้จ่ายในปี 2568 ซึ่งมีส่วนหนึ่งเป็นต้นทุนของกลยุทธ์ AI
เหตุการณ์ตรงนี้เลยทำให้หุ้นชิปที่ได้ประโยชน์จากกระแสพัฒนา AI ถูกเทขายเละเทะ จากความกังวลของนักลงทุนว่าหุ้นกลุ่มนี้ในอนาคตรายได้ กำไร อาจไม่ได้เติบโตดีเหมือนเดิม
ซึ่งหวยชุดใหญ่จะไปตกที่ใครไม่ได้นอกจาก Nvidia บริษัทที่ออกแบบชิปประมวลสำหรับ AI ได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด จนราคาหุ้นแบกความคาดหวังเอาไว้มาก
แล้วพอเรื่องนี้ดูท่าจะไม่เป็นอย่างที่หวัง มันก็เลยทำให้เมื่อคืนนี้หุ้น Nvidia -16.7% คิดเป็นมูลค่าบริษัทหายไปถึง 19 ล้านล้าน ในวันเดียว
ส่วนคุณ Jensen Huang ซีอีโอของบริษัทก็เจ็บหนักไม่แพ้กัน จากทรัพย์สินสุทธิที่ -16.7% ไม่ต่างอะไรจากหุ้น Nvidia เรียกได้ว่าจนลง 700,000 ล้าน ในวันเดียว..
ที่มา: cnbc.com, finance.yahoo.com, forbes.com, visualcapitalist.com