สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังพิจารณาคำขอจัดตั้งกองทุน Thai ESGX รวม 37 กองทุน โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 19 แห่ง
โดยกองทุน Thai ESGX จะมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม หรือ ความยั่งยืนที่ผู้ออกเป็นภาครัฐไทยหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
โดยกองทุนจะต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ กองทุนนี้จะมีสัดส่วนเป็นหุ้นยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% นั่นเอง
โดยกองทุนนี้คาดว่าจะเสนอขายพร้อมกันทั้งหมดในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นี้ และ จะมีระยะเวลาเสนอขายและสับเปลี่ยนกองทุน LTF มายัง Thai ESGX ทั้งหมด 2 เดือน คือ พฤษภาคม - มิถุนายน 2568
สำหรับสิทธิประโยชน์ของกองทุน Thai ESGX จะแบ่งเป็น 2 วงเงินหลัก ตามนี้
วงเงินที่ 1
- ผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุน เริ่มซื้อได้ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 นำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท ไม่เกิน 30% ของเงินได้ โดยต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับจากวันที่เริ่มลงทุน)
วงเงินที่ 2
- ผู้ถือหน่วย LTF ที่แจ้งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเดิมทั้งหมดในวันที่ 11 มีนาคม 2568 นำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท
โดยมีเงื่อนไขก็คือส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท ให้นำมาใช้ลดหย่อนในปี 2568 นี้ และส่วนที่เกิน 300,000 บาทขึ้นไป ให้เอาจำนวนเงินมาใช้ลดหย่อนปีละเท่า ๆ กันในปี 2569-2572 (เอาจำนวนส่วนที่เกินมาหาร 4)
คุณ พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้กล่าวว่า
“ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่า Thai ESGX จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศในระยะยาว พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนลงทุนระยะยาวผ่านตลาดทุน โดยผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลและเลือกลงทุนใน Thai ESGX ที่มีนโยบายการลงทุนที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของตนเอง”
ที่มา: sec.or.th