Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
โดย : มนันพัทธ์ ธนนันท์พร

เปิดประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

11 พ.ย. 67
19:20 น.
|
2.8K
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

  • เจาะลึกประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" จากนักธุรกิจสู่เส้นทางการเมือง
  • จากการเมืองสู่สนามฟุตบอล: กิตติรัตน์ ณ ระนอง
  • "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" นั่งแท่นประธานบอร์ด ธปท. คนที่ 5
  • กิตติรัตน์ ณ ระนอง กับบทบาทใหม่บนเส้นทางเศรษฐกิจไทย
     

ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยมีการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสาธารณชนและเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ต่อการเสนอชื่อ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย 

สำหรับคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ได้ผ่านการทำงานในหลากหลายบทบาท ตั้งแต่การเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ไปจนถึงผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติไทย แม้จะมีประสบการณ์มากมาย แต่บทบาทใหม่ในฐานะว่าที่ประธานบอร์ด ธปท.ก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีความซับซ้อนสูง

บทความนี้ SPOTLIGHT จะเปิดประวัติ และสำรวจบทบาทที่หลากหลายของกิตติรัตน์ ตั้งแต่ชีวิตวัยเรียน เส้นทางในโลกธุรกิจ การเมือง รวมถึง การเข้าสู่วงการกีฬา ตลอดจนแนวโน้มการเข้ามารับหน้าที่ในธนาคารแห่งประเทศไทย โดยท่ามกลางความคาดหวังและแรงกดดันนี้ กิตติรัตน์จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และความสามารถทั้งหมด เพื่อสร้างความไว้วางใจและเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ

เปิดประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ท่ามกลางแรงคัดค้าน

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หรือที่รู้จักกันในนาม "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"  ซึ่งเดิมทีมีกำหนดการประชุมในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ในที่สุด

การประชุมครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.00 น.และเสร็จสิ้นลงในเวลาประมาณ 14.45 น. เป็นระยะเวลาเกือบ 5 ชั่วโมง โดยมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสังคม เนื่องจากมีกระแสคัดค้านอย่างรุนแรงต่อหนึ่งในรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากกระทรวงการคลัง นั่นคือ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นอกจากคุณกิตติรัตน์แล้ว ยังมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอจาก ธปท. อีก 2 ท่าน ได้แก่ คุณกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และคุณสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)  อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า รายชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ได้รับการเสนอโดยกระทรวงการคลังนั้น  มีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติมากที่สุด

ภายหลังการประชุม คุณสถิตย์ ลิ้มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการคัดเลือกฯ ธปท. ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ว่า ขณะนี้กระบวนการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท.ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และเลขานุการฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป โดยในกรณีของประธานกรรมการฯ จะมีการนำเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อ ครม. มีมติเห็นชอบแล้ว จึงจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป ส่วนในกรณีของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะนำเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเช่นเดียวกัน

เจาะลึกประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" จากนักธุรกิจสู่เส้นทางการเมือง

"โต้ง" คือ ชื่อเล่นของ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2501 เป็นบุตรของนายเก่ง ณ ระนอง และนางวิลัดดา (สกุลเดิม หาญพานิช)  คุณกิตติรัตน์จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ  มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และคว้าปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2523 ก่อนจะต่อยอดความรู้ด้วยการจบปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในด้านชีวิตครอบครัว คุณกิตติรัตน์สมรสกับนางเกสรา ณ ระนอง (สกุลเดิม ธนะภูมิ) บุตรสาวของ พล.อ.พร และนางเรณี ธนะภูมิ ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ นายต้น นายต่อ และนายตรี ณ ระนอง โดยนายต้น ณ ระนอง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เส้นทางอาชีพของคุณกิตติรัตน์เริ่มต้นจากการเป็น "นักธุรกิจ" ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่น ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลังจากนั้น ยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระหว่างปี 2549-2551 

จากนั้น คุณกิตติรัตน์ได้เริ่มต้นเส้นทางบนถนนสายการเมืองกับ "พรรคเพื่อไทย" ในปี 2554 ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และในปี 2555  ได้ย้ายไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

"จากการเมืองสู่สนามฟุตบอล: กิตติรัตน์ ณ ระนอง และบทบาทอันหลากหลายในชีวิต"

นอกเหนือจากเส้นทางบนถนนการเมืองและโลกธุรกิจแล้ว คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ยังมีใจรักในกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล  เขาเคยฝากฝีมือในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 14 ปี เมื่อปี ค.ศ. 2002 ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 เขาก้าวขึ้นมาคุมทีมชุดเอเชียนเกมส์ และในปี ค.ศ. 2008 ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ ความผูกพันกับวงการฟุตบอลยังคงดำเนินต่อไป ในปี พ.ศ. 2566 ยังรับตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลพราม แบงค็อก  ทีมในศึกไทยลีก 3 อีกด้วย

หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 ชื่อของคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เริ่มเงียบหายไปจากเวทีการเมือง มีเพียงข่าวคราวเกี่ยวกับวงการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนยังคงจดจำเขาได้ กระทั่งการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2562 เขากลับคืนสู่สนามการเมืองอีกครั้ง โดยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ แต่ด้วยวิธีการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อแบบใหม่ ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.ในระบบนี้ ส่งผลให้คุณกิตติรัตน์พลาดโอกาสเข้าสู่สภา อย่างไรก็ตามในปี พ.ศ. 2563  เขาได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เส้นทางการเมืองของคุณกิตติรัตน์ยังคงดำเนินต่อไปในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2566  เมื่อพรรคเพื่อไทยรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ  เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้แต่งตั้งให้กิตติรัตน์เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  แต่เขาก็ดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน เมื่อเศรษฐาถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้คุณกิตติรัตน์พ้นจากตำแหน่งประธานที่ปรึกษาฯ ไปด้วย ปัจจุบัน คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง และไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล

"กิตติรัตน์ ณ ระนอง" นั่งแท่นประธานบอร์ด ธปท. คนที่ 5 พร้อมเจาะลึกบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ ธปท.

เป็นที่คาดการณ์กันว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ในวันนี้ ได้ลงมติเลือก คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้  นับตั้งแต่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551  บุคคลผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท. มีจำนวน 4 ท่าน ได้แก่

  • หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล
  • นายวีรพงษ์ รามางกูร
  • นายอำพน กิตติอำพน
  • นายปรเมธี วิมลศิริ

โดยคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท. คนที่ 5

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมาตราที่บัญญัติถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการไว้ดังนี้

มาตรา 25  คณะกรรมการธปท. มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลกิจการและการดำเนินการของ ธปท. โดยรวม เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 7  เว้นแต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน นอกจากนี้ คณะกรรมการ ธปท. ยังมีอำนาจหน้าที่อื่นๆ อีก ดังต่อไปนี้

  1. พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานและงบประมาณ และประเมินผลการดำเนินกิจการและการดำเนินการของ ธปท. รวมทั้งประเมินผลการปฏิบัติงานโดยทั่วไปของผู้ว่าการ
  2. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยโครงสร้างองค์กร และการบริหารงานบุคคล
  3. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยการเสนอชื่อ การพิจารณา และการคัดเลือก ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน   
  4. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยการป้องกันการมีส่วนได้เสียและจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของกรรมการในคณะกรรมการตามมาตรา 17 ผู้ว่าการ พนักงาน และลูกจ้าง
  5. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยการมอบอำนาจ การรักษาการแทน การบริหารงานหรือดำเนินกิจการอื่นใด
  6. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยงบประมาณและรายจ่าย และการจัดซื้อและจัดจ้าง   
  7. กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการกำหนดเงินเดือนและเงินอื่น ๆ รวมตลอดถึงการให้กู้ยืมเงิน การสงเคราะห์ และให้สวัสดิการต่าง ๆ แก่พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง และครอบครัวของบุคคลดังกล่าว
  8. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ในทุนสำรองเงินตราตามกฎหมายว่าด้วยเงินตราและสินทรัพย์ของ ธปท. ตามส่วนที่ 3 ของหมวด 6   
  9. พิจารณาให้ความเห็นชอบการตั้งและการเลิก สาขาหรือสำนักงานตัวแทน
  10. กำหนดขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบตามมาตรา 55
  11. กำกับดูแลการจัดทำงบการเงิน รายงานประจำปี และรายงานอื่นๆ ของ ธปท. ตามที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัตินี้   
  12. ปฏิบัติการอื่นตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น

กิตติรัตน์ ณ ระนอง กับบทบาทใหม่บนเส้นทางเศรษฐกิจไทย

การแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญบนเส้นทางชีวิต ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์และแรงคัดค้านจากหลายฝ่าย คุณกิตติรัตน์กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

จากประวัติที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าคุณกิตติรัตน์เป็นบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย สั่งสมประสบการณ์ทั้งในโลกธุรกิจและการเมืองเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  และล่าสุด คือ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธปท.นั้น นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ เนื่องจากธปท.มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงิน ดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน และรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ บทบาทของธปท. ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น คุณกิตติรัตน์ในฐานะประธานกรรมการธปท.จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ เพื่อนำพาธปท.ให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

หากการตัดสินใจแต่งตั้งคุณกิตติรัตน์เป็นประธานกรรมการ ธปท.ของรัฐบาลครั้งนี้ ย่อมเกิดขึ้นจากการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงคุณสมบัติ ความเหมาะสมและความรู้ความสามารถของเขา แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็ต้องเปิดโอกาสให้คุณกิตติรัตน์ได้พิสูจน์ฝีมือและใช้ความสามารถในการบริหาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ สำหรับบทบาทใหม่ของคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง บนเส้นทางเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

แชร์

เปิดประวัติ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ