การเงิน

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.78 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวันก่อน

3 ก.ค. 67
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.78 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวันก่อน

ค่าเงินบาทเช้านี้

วันที่ 5 กรกฎาคม 2567

411595

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด  36.62 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.63 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าขึ้น ตามโฟลว์ธุรกรรมทอง หลังราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นมาที่ระดับ 2,350  โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญาณอ่อนแอลงในช่วงนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก

อย่างไรก็ดีจากถ้อยแถลงของพาวเวล และรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) รอบเดือนมิ.ย. นั่นชี้ว่า เฟดยังต้องการประเมินข้อมูลเพิ่มเติม จนกว่าจะมีความมั่นใจมากพอต่อการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อกลางสหรัฐ (เฟด) จึงจะสามารถเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ดังนั้นยังคงแนะนําให้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป. โดยวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนมิ.ย

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้ น่าจะยังคงเห็นแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงเงินบาทแข็งค่าเข้าใกล้โซน 36.50 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวที่ 36.50-36.75 บาท/ดอลลาร์

เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,312 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,369  ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.50- 36.75
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 36.50

  • EUR/THB 39.50- 39.90 แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 39.90
  • JPY/THB 0.2260- 0.2300 แนะนำ ทยอยซื้อ   0.2260

GBP/THB 46.60-46.90
AUD/THB 24.40- 24.80

 

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567

107768

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.78 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานชะลอตัวลง ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 48.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และ คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการชะลอตัวของอุปสงค์

หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานดังกล่าว ข้อมูลจาก LSEG FedWatch บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 11-12 มิ.ย.ของเฟด เพื่อประเมินทิศทางอัตรา

เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,829 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,319 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ

  • USD/THB 36.50 - 36.80 แนะนำทยอยซื้อที่ 36.50/ขาย 36.80
  • EUR/THB 39.35 - 39.85 แนะนำทยอยซื้อที่ 39.35 / ขาย 39.85
  • JPY/THB 0.2245 - 0.2295 แนะนำทยอยซื้อที่ 0.2245 - 0.2295

GBP/THB 46.50 - 47.00
AUD/THB 24.45 - 24.75

 


วันที่ 3 กรกฎาคม 2567

593815

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.78 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันทำการก่อนหน้าที่ระดับ 36.86 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก สอดคล้องการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน มิ.ย.ในวันศุกร์นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. จากระดับ 272,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.0%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงใน 2 เวทีสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,917 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,821 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.60- 36.90
แนะนำ ซื้อ 36.60/ ขาย 36.90

EUR/THB 39.20- 39.70
cนะนำ ซื้อ 39.20 / ขาย 39.70

JPY/THB 0.2250- 0.2300
แนะนำ ซื้อ 0.2250/ ขาย 0.2300

GBP/THB 46.50- 47.00
AUD/THB 24.30- 24.80

ค่าเงินบาทเช้านี้

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.76 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.74 บาท/ดอลลาร์

626298

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

จับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือน ก.ค. โดยมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาและต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 -10 ก.ค. ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

เปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 48.5 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 48.7 ในเดือน พ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.1 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.ของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 51.3 ในเดือน พ.ค.

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงาน ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน พ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือน พ.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย.

ปิดตลาดเมื่อวาน นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิ  4,185 ล้านบาท และซื้อหุ้นไทยสุทธิ 337 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.50- 36.90
แนะนำ ทยอยซื้อที่ 36.50/ ขาย 36.90

EUR/THB 39.30- 39.80
แนะนำ ซื้อ   39.30/ ขาย 39.80

JPY/THB 0.2260- 0.2300
แนะนำ ซื้อ   0.2320/ ขาย 0.2360

GBP/THB 46.20- 46.60
AUD/THB 24.30- 24.70

ค่าเงินบาทเช้านี้

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567

949936

ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 36.86 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อลดลงในเดือน พ.ค. ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.7% ในเดือน เม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน พ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน เม.ย. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.8% ในเดือน เม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือน หลังจากการเปิดเผย PCE นั้น ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า มีโอกาสประมาณ 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบกับ 65% ก่อนการเปิดเผยข้อมูล PCE

จับตาการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ตลาดคาดว่า อาจเพิ่มขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. เทียบกับ 272,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค.

ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิ 1,220 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 2,620 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.50- 36.90
แนะนำ ทยอยซื้อที่ 36.50/ ขาย 36.90

EUR/THB 39.30- 39.80
แนะนำ ซื้อ   39.30/ ขาย 39.80

JPY/THB 0.2260- 0.2300
แนะนำ ซื้อ   0.2320/ ขาย 0.2360

GBP/THB 46.60- 47.00
AUD/THB 24.30- 24.70 

 ที่มา : ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT