ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) และสมาคมธนาคารสิงคโปร์ (ABS) ร่วมกันออกประกาศว่า ธนาคารพาณิชย์ในสิงคโปร์เตรียมยุติการใช้รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว หรือ One-Time Password (OTP) สำหรับการเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคารออนไลน์ของลูกค้ารายย่อยภายใน 3 เดือนข้างหน้า โดยจะเปลี่ยนมาใช้ระบบโทเคนดิจิทัล (Digital Token) เพื่อป้องกันมิจฉาชีพในรูปแบบฟิชชิ่ง (Phising) หรือการหลอกลวงเพื่อขอข้อมูลสำคัญแล้วสวมรอยลูกค้าทำธุรกรรม
การเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคารออนไลน์ด้วยโทเคนดิจิทัลนั้น ลูกค้าจะต้องเปิดใช้งานโทเคนดิจิทัลบนสมาร์ตโฟนก่อน แล้วใช้โทเคนดังกล่าวในการเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคาร ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน (Mobile Banking) ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลจะทำหน้าที่ตรวจสอบการเข้าสู่ระบบของลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้ OTP ซึ่งกำลังเป็นเป้าหมายที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงลูกค้าเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญแล้วสวมรอยทำธุรกรรม
สำหรับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ถูกนำมาใช้ในสิงคโปร์ตั้งแต่ช่วงปี 2000 ในฐานะตัวเลือกการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) หรือการหลอกลวงที่ใช้หลักจิตวิทยาให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลก็มีความซับซ้อนมากขึ้น มิจฉาชีพจึงใช้ช่องโหว่นี้หลอกลวงลูกค้าในรูปแบบฟิชชิ่ง (Phising) เช่น การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ให้มีลักษณะใกล้เคียงกับเว็บไซต์จริง เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญรวมถึง OTP ได้ง่ายขึ้น
Ong-Ang Ai Boon ผู้อำนวยการสมาคมธนาคารสิงคโปร์ (ABS) ยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้ลูกค้าเกิดความไม่สะดวกบ้าง แต่มาตรการนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องลูกค้าจากมิจฉาชีพและการเข้าถึงบัญชีธนาคารของลูกค้า โดยที่พวกเขาไม่ได้อนุญาต
ด้าน Loo Siew Yee ผู้บริหารของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) กล่าวว่า MAS ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารเพื่อปกป้องลูกค้าจากมิจฉาชีพและการหลอกลวงทางไซเบอร์ ซึ่ง MAS เชื่อมั่นว่ามาตรการนี้จะช่วยเหลือลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น การปกป้องข้อมูลด้านการเงินของตนเอง การไม่ใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายเกินไป ยังคงเป็นสิ่งที่ MAS แนะนำให้ลูกค้าปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง