Lightnet-WeLab จับมือลุย Virtual Bank ไทย มุ่งยกระดับการเงินดิจิทัล

ฟินเทคระดับโลก Lightnet และ WeLab ผนึกกำลังครั้งสำคัญ ยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank ในประเทศไทย มุ่งนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาพลิกโฉมการเงินไทย เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินให้คนไทยทุกกลุ่ม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Lightnet-WeLab จับมือลุย Virtual Bank ไทย มุ่งยกระดับการเงินดิจิทัล

Lightnet Group และ WeLab ผู้นำฟินเทคระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ต่อธนาคารแห่งประเทศไทย มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของคนไทย พร้อมนำโซลูชันระดับโลกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วมาให้บริการในประเทศไทย คาดว่าจะทราบผลการพิจารณาภายในกลางปี 2568

ด้วยประสบการณ์อันแข็งแกร่งจากการบริหาร Virtual Bank ในฮ่องกงและอินโดนีเซีย ซึ่งรองรับลูกค้ากว่า 65 ล้านราย กลุ่มบริษัท Lightnet และ WeLab มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้ใช้บริการและกฎระเบียบทางการเงิน นอกจากนี้ การได้รับใบอนุญาตการให้บริการทางการเงินกว่า 20 ใบ ทั้งในเอเชียและยุโรป รวมถึงประเทศไทย และเครือข่ายระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าในไทยได้กว่า 46 ล้านราย เป็นเครื่องยืนยันถึงความพร้อมในการให้บริการ Virtual Bank ในประเทศไทย

กลุ่มบริษัทมีแผนที่จะขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังของผู้นำฟินเทคระดับโลก เพื่อสร้างการเงินแห่งอนาคตให้แก่ประเทศไทย ทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติบริการทางการเงินในประเทศไทยผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง และพร้อมที่จะนำโซลูชันชั้นนำระดับโลกมาสู่อุตสาหกรรมธนาคารไทย

จุดแข็ง คือ การผสานความแข็งแกร่งของระบบนิเวศทางธุรกิจ เข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

Lighthub Asset ซึ่งก่อตั้งโดยนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ร่วมกับ Lightnet Group มีฐานลูกค้าในประเทศไทยกว่า 46 ล้านราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม และมีช่องทางให้บริการกว่า 150,000 จุดทั่วประเทศ ระบบนิเวศอันแข็งแกร่งนี้ พร้อมนำพาเทคโนโลยี AI มาขับเคลื่อน Virtual Bank แห่งอนาคตในประเทศไทย

นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ นักธุรกิจชั้นนำของไทย ผู้ร่วมก่อตั้ง อิออน ธนสินทรัพย์ และฟินันเซีย ไซรัส มีประสบการณ์ในแวดวงการเงินทั้งในและต่างประเทศมากว่า 30 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของนิตยสารชื่อดังระดับโลกอย่าง Fortune Magazine

Lightnet Group บริษัทฟินเทคชั้นนำของไทยและของโลก เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินแห่งอนาคต ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางอื่นๆ ในเอเชียและยุโรป บริษัทฯ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกค้ามากมาย ผ่านธุรกรรมทางการเงินมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ให้บริการ Global Payment Solution ที่หลากหลาย รองรับหลายสกุลเงินใน 150 ประเทศทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI และ Blockchain Lightnet Group ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นชั้นนำระดับโลก เช่น ยูโอบี เวนเจอร์ แมเนจเม้นท์ (UOB Venture Management) ธนาคารเซเว่น (Seven Bank) ฮันวา อินเวสเมนท์แอนด์ซีคิวรีตี้ (Hanwha Investment & Securities) ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (Uni-President) และสำนักงานบริหารทรัพย์สินราฟเฟิล (Raffles Family Office)

WeLab ผู้นำ Virtual Bank ในเอเชียแปซิฟิก พร้อมขับเคลื่อนการเงินดิจิทัล

WeLab คือผู้นำด้าน Virtual Bank ในเอเชียแปซิฟิก ที่ให้บริการลูกค้ากว่า 65 ล้านราย และอนุมัติสินเชื่อดิจิทัลไปแล้วกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทฯ นำเสนอบริการทางการเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่สินเชื่อผ่านระบบ Credit Scoring ที่ทันสมัย โซลูชันเทคโนโลยีสำหรับองค์กร ไปจนถึงบริการดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ครบวงจร ทั้งการออม การจ่ายเงิน สินเชื่อ ประกัน และการบริหารความมั่งคั่ง

ด้วยความสำเร็จในการบริหาร Virtual Bank ทั้ง Bank Saqu ในอินโดนีเซีย และ WeLab Bank ในฮ่องกง ซึ่งได้รับรางวัลบริษัทที่มีนวัตกรรมเป็นเลิศ (Most Innovative Company) และรางวัล Virtual Bank of the Year ทำให้ WeLab ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนชั้นนำระดับโลกมากมาย

Lighthub + WeLab มุ่งมั่นส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินสำหรับทุกคน

ทั้ง Lighthub และ WeLab มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะทำให้บริการทางการเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงหรือเข้าถึงได้ไม่เต็มที่ (Unserved และ Underserved) กลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของธุรกิจ MSME ซึ่งมักประสบปัญหาเรื่องรายได้ที่ไม่แน่นอนและโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่จำกัด

กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนด้วย 2 แนวคิดสำคัญ

• ส่งมอบคุณค่าอย่างเป็นระบบ: เรามุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ลูกค้าในทุกช่วงชีวิต เริ่มตั้งแต่การ เข้าถึง โอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึงผ่านเครื่องมือวางแผน AI ที่ช่วยออกแบบแผนการเงินส่วนบุคคล ตามด้วยการ เติบโต ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม และสุดท้ายคือการสร้าง ความมั่งคั่ง ในระยะยาวด้วยผลิตภัณฑ์ประกันและการลงทุนที่ออกแบบเฉพาะบุคคลโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
• เทคโนโลยีเป็นรากฐาน: เรานำเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้ง AI, Big Data, และ Edge Computing มาสร้าง Virtual Bank ที่ตอบสนองทุกความต้องการ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและปรับขนาดได้ รองรับการพัฒนาบริการ Embedded Finance ที่เชื่อมโยงพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Unserved & Underserved) ได้รับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในราคาที่เป็นธรร

มั่นใจ Virtual Bank หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่า การเปิดรับผู้เล่นใหม่ในระบบการเงินไทย โดยเฉพาะ Virtual Bank นั้นสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคารแห่งประเทศไทยในการสร้างความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้นและเติบโตอย่างยั่งยืน

คุณหิรัญกฤษฎิ์ อรุณานนท์ชัย จาก Lighthub Asset มองว่านโยบาย Virtual Bank ของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการเงินไทย กลุ่มพันธมิตรของเขาพร้อมนำเสนอ "Smart & Open Virtual Bank" ที่ใช้เทคโนโลยี AI, Data Analytics และ Digital Platform ระดับโลก เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Unserved & Underserved) และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินและ AI ของเอเชีย

นายไซมอน หลุง จาก WeLab แสดงความตื่นเต้นที่จะร่วมสร้าง Virtual Bank แห่งที่ 3 ในเอเชีย และตั้งเป้าให้เป็นผู้นำในไทย โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีแบบเปิดที่พร้อมเชื่อมต่อกับพันธมิตร เพื่อนำบริการทางการเงินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน และร่วมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย

ดังนั้น การผนึกกำลังของ Lightnet และ WeLab ในการยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมภูมิทัศน์การเงินไทย นำไปสู่ยุคใหม่ของบริการทางการเงินดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้ สะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีระดับโลก เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน และเปิดประตูสู่โอกาสทางการเงินที่มากขึ้นสำหรับคนไทยทุกคน