คนอายุน้อยทั่วโลกหันไปใช้โทรศัพท์มือถือแบบมีปุ่มกด หรือ “Dumbphones” กันมากขึ้น เพราะช่วยดีท็อกสมองและจิตใจ ลดอาการติดโทรศัพท์ และความวิตกกังวลจากการใช้โซเชียล
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “สมาร์ทโฟน” กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่มนุษย์ยุคใหม่ทุกคนต้องมีไปเสียแล้ว เพราะในปัจจุบัน กิจกรรมทุกอย่างของเราแทบจะอยู่บนโทรศัพท์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การทำธุรกรรมการเงิน และการซื้อของ รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลและความบันเทิงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร การดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่อ่านหนังสือ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนวีถีชีวิตของมนุษย์ และทำให้ทุกอย่างง่ายดายเพียงนิ้วสัมผัส
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สมาร์ทโฟนจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่ข้อเสียสำคัญของสมาร์ทโฟนที่ใครๆ ก็รู้คือ การที่มัน ‘ดึง’ เวลาในชีวิตของเราไปที่หน้าจอ และมีข้อมูลข่าวสารมากมายที่ทำให้สมองเราจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในหน้าจอมากเกินจำเป็น อีกทั้ง ยังเป็นบ่อเกิดของความวิตกกังวล และโรคทางสุขภาพจิตมากมาย โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียที่ทำให้เรารู้เรื่องไม่จำต้องรู้ และเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจนเกิดความทุกข์ทั้งที่ไม่จำเป็น
เพราะเหตุนี้ กระแสกลับไปใช้โทรศัพท์มือถือแบบมีปุ่มกด ที่สามารถโทรเข้าออก ส่งข้อความ ถ่ายรูปได้ แต่ไม่มีแอพพลิเคชั่นที่ทำให้เล่นอินเทอร์เน็ต ส่งข้อความแชท อ่านข่าว ดูหนัง ฟังเพลงได้เหมือนสมาร์ทโฟนปกติ หรือโทรศัพท์ที่คนเรียกกันเล่นๆ ว่า “Dumbphones” หรือ โทรศัพท์ง่อยๆ ที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรเข้าโทรออก ไม่เหมือน “Smartphones” ที่ฉลาดล้ำและมีความสามารถยิ่งกว่ามนุษย์
จากรายงานของ BBC ความนิยมของมือถือปุ่มกดเริ่มมากขึ้นในช่วงปี 2018-2021 ที่ยอดการค้นหาในกูเกิ้ลสำหรับ Dumbphones เพิ่มขึ้นมากถึง 89% ในช่วงนั้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานที่คาดการณ์ว่า ยอดขายของโทรศัพท์ปุ่มกดแบบนี้ขึ้นไปถึง 1 พันล้านเครื่องทั่วโลกในปี 2022 จากเพียง 400 ล้านเครื่องในปี 2019
ขณะที่ข้อมูลของ CNBC บริษัท HMD Global ผู้ผลิตโทรศัพท์ให้กับ Nokia รายงานว่า พวกเขาสามารถจำหน่ายมือถือรุ่นที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนของ Nokia ได้ถึงหลายล้านเครื่องในปี 2022 โดยเป็นยอดในสหรัฐฯ หลายหมื่นเครื่องต่อเดือน โดยเฉพาะรุ่นฝาพับที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ
โดยข้อมูลของบริษัทวิจัย Counterpoint Research 80% ของยอดขายมือถือปุ่มกดทั่วโลกในปี 2022 มาจากผู้บริโภคในประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินเดีย ขณะที่เทรนด์ในพื้นที่อื่นๆ อาจเปลี่ยนไปจากกระแสคนอายุน้อยที่หันมาให้โทรศัพท์ฟังก์ชั่นน้อยที่ไม่กินเวลาชีวิตกันมากขึ้น จากทั้งความต้องการในการฟื้นฟูสุขภาพจิต และจากกระแส Y2K ที่กำลังเป็นเทรนด์วัฒนธรรมใหม่ในช่วงนี้
ทั้งนี้ นอกจากโทรศัพท์ของผู้ผลิตรุ่นเก่าอย่าง Nokia แล้ว แบรนด์มือถือใหม่ๆ ที่ออกมาตอบโจทย์คนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในโลกออนไลน์บนโทรศัพท์ก็เกิดขึ้นหลายรายในช่วงหลายปีมานี้ อย่างเช่น Light Phone ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่พัฒนาและผลิตโดย Light บริษัทที่ก่อตั้งโดย Joe Hollier และ Kaiwei Tang จากแนวคิดที่จะผลิตโทรศัพท์ที่มีความเรียบง่ายที่สุด เพื่อขายคนที่อยากมีโทรศัพท์เครื่องที่ 2 ใช้ เวลาอยากหนีจากสมาร์ทโฟน
โดยผลที่ออกมาก็เป็นโทรศัพท์เล็กๆ จอขาวดำขนาดประมาณบัตรเครดิตที่มีฟังก์ชั่นโทรเข้าออก ส่งข้อความ และอื่นๆ เช่น แผนที่ และฟังเพลง โดยไม่มีโซเชียลมีเดียมากวนใจ ที่ได้รับความนิยมเกินคาดจากผู้บริโภคจนมีสินค้าในไลน์ 2 รุ่นแล้ว คือ Light Phone ที่ออกมาในปี 2017 และ Light Phone II ที่ออกมาในปี 2018
นอกจากนี้ รายงานของ BBC Kaiwei Tang กล่าวว่า ยอดขายที่ดีที่สุดของบริษัท คือ ยอดขายในปี 2021 ที่เพิ่มขึ้นถึง 150% จากปีก่อนหน้า โดยลูกค้าส่วนมากอยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปี ซึ่งเด็กกว่าที่คิด และยังมีลูกค้าหลายรายบอกว่า Light Phone ไม่ใช่โทรศัพท์เครื่องที่ 2 สำหรับพวกเขาอีกต่อไป แต่เป็นโทรศัพท์เครื่องหลัก สะท้อนว่า ตลาดมีผู้ต้องการโทรศัพท์ที่ช่วยดีท็อกจิตใจและสมอง ไม่มีแจ้งเตือนจากทั้งโซเชียลมีเดียและอีเมล์มากวนใจมากกว่าที่คิด
ที่มา: CNBC, Business Insider