โลกแห่งความกดดัน แต่ทำไมชีวิตเราถึงว่างเปล่า
ในโลกปัจจุบันที่สังคมเรามีแต่ความเครียด และความกดดันรุมเร้าจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง อีกทั้งอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ที่อาจเป็นเหมือนดาบสองคม กระจกที่เรามองสะท้อนตัวเองเปรียบเทียบกับคนอื่น และนำมาตีค่าวัดผลความสำเร็จในชีวิตของเราและทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในตัวเองในที่สุด (self-esteem)
สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายๆคนอาจกำลังเผชิญกับความรู้สึกว่างเปล่าข้างในใจ ก็แค่ใช้ชีวิตให้จบไปในแต่ละวัน โดยไม่ได้มีเป้าหมายอะไร รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรกังวลใจ ไม่ได้ทุกข์ แต่ก็ไม่ได้มีความสุข จากสิ่งที่เคยชอบ เคยทำแล้วสนุก ตื่นเต้นกับการใช้ชีวิต แต่วันนี้สิ่งเหล่านั้นกลับเป็นเรื่องชินชา แพชชั่นที่เคยมีตอนนี้กลับไม่มีแล้ว
หากคุณมีความรู้สึกแบบนี้ ในช่วงสั้นๆก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่หากอาการเหล่านี้อยู่กับคุณนาน ไม่หายไปสักที และดูเหมือนว่าจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ นั้นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะ Dead Inside หรือ ภาวะสิ้นยินดี และแม้ดูเหมือนว่าเป็นลักษณะนิสัยของคนที่ไม่ปล่อยวางอะไรง่ายๆ แต่แท้จริงแล้วภาวะสิ้นยินดีนั้นอันตรายมาก เพราะจะทำให้เราหมดไฟไปเรื่อยๆ และอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ในอนาคต
คนไทยกับโรคซึมเศร้า
กรมสุขภาพจิต ได้เปิดเผยข้อมูลโรคซึมเศร้าในสังคมไทยปี 65 พบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มากถึง1.5 ล้านคน หรือ 2.2% ของคนไทยทั้งหมด โดยมีเพียงผู้ป่วยเพียงแค่ 28 คนเท่านั้นที่เข้ารับการรักษาจาก 100 คน
นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา คนไทยพยายามฆ่าตัวตายชั่วโมงละ6 คน หรือทั้งปีมากกว่า 53,000 คน และเสียชีวิตราว 4,000 คน ซึ่งจากสถิติแล้วปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โรคซึมเศร้ากลายเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของสังคมไทย
แต่โรคซึมเศร้า อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะ Dead Inside แต่อาจมีอาการจิตเวชด้านอื่น ที่เป็นสาเหตุได้เช่นกัน นั้นก็คือ PTSD หรือ โรคเครียดหลังเจอเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือสถานการณ์อื่นๆเมื่อเราต้องพบเจอกับภาวะความเครียด ความกดดัน และเหนื่อยมากจนร่างกายเกินจะรับไว
วิธีการรับมือกับภาวะ Dead Inside
ที่มา