การเงิน

มิสแกรนด์ หรือ MGI หุ้นนางงามตัวแรก เคาะราคา IPO 4.95 บาท/หุ้น

29 พ.ย. 66
มิสแกรนด์ หรือ MGI หุ้นนางงามตัวแรก เคาะราคา IPO 4.95 บาท/หุ้น

บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MGI เจ้าของเวทีประกวดนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ปักธงเทรดในตลาด mai ล่าสุดเคาะราคาราคาขาย IPO ที่หุ้นละ 4.95 บาท มั่นใจปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง เพราะไม่ได้มีดีแค่เวทีประกวดนางงามเท่านั้น 

นายธวัทชัย แพร่แสงเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 4.95 บาท จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 4, 6 และ 7 ธันวาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนธันวาคม 2566 ในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 4.95 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 11.76 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ทั้งนี้ MGI พิจารณานำ P/E ของ คู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 มาเป็นข้อมูลประกอบการเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ดี MGI ไม่ได้มีแค่ธุรกิจประกวดนางงามเท่านั้น ในการแถลงข่าว IPO Press Conference & Retail Investor Roadshowายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรสด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ระบุว่า การประกวดนางงามเป็นเพียง 1 ใน 4 กิจกรรมสร้างรายได้ให้กับบริษัท โดยยังมีธุรกิจ Commerce สินค้าหลากหลายแบรนด์ในบริษัท รวมถึง ธุรกิจสื่อ และ ธุรกิจบริหารศิลปิน ซึ่งล้วนแล้วแต่กำลังเติบโต โดยย้ำว่า  MGI แตกต่าง เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการพาณิชย์และเจ้าของเวทีประกวดนางงามในไทยรายแรกที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุน 

ทั้งนี้ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 60  ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย พร้อมด้วย ผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 2 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน)

นายณวัฒน์ ยังระบุอีกว่า  การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 284 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้สำหรับลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคาร จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 40 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567, ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 50 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567, ลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) จำนวนที่ใช้ราว 20 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เติบโตก้าวกระโดดได้ในอนาคต

MGI

และมั่นใจว่าหลังจากระดมทุนครั้งนี้จะสนับสนุนฐานทุนบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ ให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านร่วมเติบโตไปกับเรา และสนับสนุนให้ MGI ก้าวสู่การเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพาณิชย์และเจ้าของเวทีประกวดนางงามรายแรกที่สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุน ด้วยชื่อเวทีที่ทางบริษัทเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นและเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทเอง ซึ่งถือเป็นเวทีประกวดนางงามเพียงรายเดียวในประเทศไทย ที่ดำเนินการจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบนี้ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งในเวทีระดับประเทศ (MGT) และเวทีระดับนานาชาติ (MGI) จึงอยากให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านร่วมเติบโตไปกับเรา

โดยบริษัทฯมีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการประกวดนางงามทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้เป็นเวทีนางงามที่ได้รับกระแสนิยมมากที่สุด ภายใต้คำขวัญขององค์กร “นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์” ทำให้มีผู้คนติดตามและมีส่วนร่วม (Engagement) ในประสบการณ์ จากแบรนด์ของบริษัทในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจของบริษัทที่เกี่ยวข้องทุกสายงาน รวมทั้งส่งมอบสินค้าและบริการแก่ลูกค้าให้ประทับใจที่สุด ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต พร้อมพัฒนาและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานของ MGI  ปี 2565 มีรายได้รวม 319.86 ล้านบา กำไรสุทธิ 47.85 ล้านบาท งวด 9 เดือนแรกของปี 2566  มีรายได้รวม 432.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 77.13 ล้านบาท 

สำหรับสัดส่วนรายได้ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มาจากธุรกิจพาณิชย์ 40.86% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 12.63% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19.06% ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23.12% รายได้ค่าเช่าช่วง MGI Hall  3.51% และ รายได้อื่น 0.82%

ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จุดเด่นมิสแกรนด์มี แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ สามารถเข้าสู่ระบบลิขสิทธิ์ตัวแทน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเวทีการประกวดแรกในประเทศไทยที่ดำเนินการจัดการในรูปแบบนี้ รวมทั้ง เครือข่ายนางงามที่ส่งเข้าประกวดในระดับนานาชาติ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การขยายตลาดสร้างความยั่งยืน และต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาสมากขึ้น

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

ทั้งนี้ MGI มีทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาทโดยเป็นทุนชำระแล้ว 75 ล้านบาทและหลังจากทำการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน IPO ครั้งนี้อีก 30 ล้านบาทจะเป็นทุนชำระแล้วเต็ม 105 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น 210 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นก่อนและหลัง IPO ดังนี้ มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย 1. นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล สัดส่วนก่อนและหลัง IPO อยู่ที่ 60.00% และ 42.86% ตามลำดับ, 2. นายรัชพล จันทรทิม สัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 39.99% และ 28.56% ตามลำดับ 3. นางพรพรรณ จุลเจือ สัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ <0.01% และ <0.01% และ 4. ประชาชนทั่วไปหลังการเสนอขาย IPO อยู่ที่ 28.57%

อย่างไรก็ตาม ทั้งคุณณวัฒน์ และคุณรัชพล ยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นของบริษัทในอนาคต ระยะยาว เนื่องจากทั้ง 2 ท่าน เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่เริ่มแรก เป็นผู้ที่ช่วยกันบริหารบริษัทให้มีความเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และทั้ง 2 ท่าน ยังมีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจที่แน่วแน่ในการที่จะบริหารบริษัท และนำพาบริษัทให้เจริญเติบโตบรรลุเป้าหมายให้บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนางงามโลกให้สำเร็จ

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT