ราชกิจจานุเบกษาประกาศแล้ว!ให้สัญญาเช่าซื้อรถใหม่ต้องคิด "ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก" แถมมีการคุมเพดานดอกเบี้ยรถอีกด้วย มันจะมีประโยชน์อย่างไร วันนี้ SPOTLIGHT สรุปให้ฟัง
ตั้งแต่วันที่ 11มกราคม 2565 เป็นต้นไปการซื้อรถแบบผ่อนไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถมอเตอไซต์ จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบ “ลดต้นลดดอก” ภาษาอังกฤษเรียกว่า Effective Rate ความหมายคือ ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณมาจากเงินต้น เมื่อเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยก็จะลดลงตามไปด้วย
ซึ่งเป็นวิธีการคิดดอกเบี้ยต่างจากปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมา ที่การผ่อนรถจะเป็นแบบ เงินต้นคงที่ หรือ Flat Rate ดอกเบี้ยค่าผ่อนทุกงวดคำนวณมาแล้วแบบเท่ากันทุกงวด เราลองมาทำความเข้าใจค่ะว่า แบบปัจจุบันเป็นอย่างไร และ แบบใหม่มันคำนวณอย่างไร
ตัวอย่าง
สดใส ซื้อรถมอเตอร์ไซต์ ราคา 100,000 บาท ธนาคารหรือลีซวิ่งคิดดอกเบี้ย 3%ต่อปี สดใสจะผ่อนรถ 2 ปี หรือ 24 เดือน สรุปถ้าคิดแบบนี้ สดใสต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ และสรุปสดใส จ่ายดอกเบี้ยไปเท่าไหร่?
ผ่อนรถด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ Flat Rate
จะคำนวณดอกเบี้ยที่ลูกค้าต้องชำระจากเงินต้นทั้งก้อนที่คงที่ตลอดอายุของสัญญานั้น แม้ว่าลูกค้าจะได้ทยอยผ่อนชำระเงินต้นบางส่วนไปเรื่อย ๆ แล้วก็ตาม โดยมีวิธีการคำนวณดังต่อไปนี้
ที่นี้ลองมาคำนวณแบบอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกกันบ้างค่ะ เค้าจะคิดจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าดอกเบี้ยที่ไหนถูกหรือแพง ลองแปลง Flat Rate เป็น Effective Rate ช่วยได้ โดยในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่ต่างประเภทกัน เราไม่สามารถนำตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate) มาเปรียบเทียบโดยตรงกับตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ได้ เพราะวิธีการคิดดอกเบี้ยแตกต่างกัน
ดังนั้น หากจะแปลงอัตราดอกเบี้ยจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบเงินต้นคงที่เป็นแบบลดต้นลดดอกแบบคร่าว ๆ ก็สามารถทำได้โดยใช้ 1.8 คูณกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบเงินต้นคงที่ โดยจากตัวอย่างที่เรายกมาว่า สดใส จะซื้อรถมอเตอร์ไซต์ 100,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ คือ 3% /ปี แต่เมื่อมาแปลงเป็น ลดต้นลดดอกจะได้ 5.66 % ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลักการของการลดต้นลดดอก จำคิดดอกเบี้ยจากจำนวนต้น ยิ่งต้นลดลง ดอกก็ลดลง ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ก็เมื่อมีการโปะ การจ่ายค่าผ่อนเพิ่ม ดอกเบี้ยก็จะถูกลง และ ร่นระยะเวลาให้ผ่อนหนี้หมดเร็วขึ้น
แต่จากตารางดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% เทียบกับดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 5.6% ทำให้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกแบบจ่ายรวมสูงกว่าแบบดอกเบี้ยคงที่เล็กยน้อย แต่หากผู้ผ่อนได้อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกที่ 3% อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนรวมของรถคันนี้ต่ำกว่า 6,000 บาทแน่นอน
นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวดี อีกหนึ่งส่วนสำคัญคือ การให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี มีเพดานดังต่อไปนี้ค่ะ
- กรณีรถยนต์ใหม่ ต้องไม่เกิน 10% ต่อปี
- กรณีรถยนต์ใช้แล้ว ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี
- กรณีรถจักรยานยนต์ ต้องไม่เกิน 23% ต่อปี (จากเดิม 32-33%)
ส่วนลูกค้าหรือผู้ที่เช่าซื้อ "ปิดบัญชีก่อน ต้องให้ส่วนลด" กับผู้เช่าซื้อด้วยก็ต้องมีการให้ส่วนลดด้วยดังนี้
ก. กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ข. กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ค. กรณีชำระค่างวดมาแล้วเกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
สรุปว่า กฏหมายที่ออกมาใหม่นี้หากผู้บริโภควางแผนในการบริหารการเงินดีๆในการผ่อนก็น่าจะได้ประโยชน์จากการคิดอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก รวมไปถึงการให้ส่วนลดหากมีการปิดบัญชีก่อน กำหนด
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังจะซื้อรถ นี่อาจจะรอปีหน้าเลย เพราะผู้ที่ผ่อนรถอยู่อยากจะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอกแบบใหม่ก็คงจะต้องไปเจรจากับผู้ปล่อยสินเชื่อว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ ซึ่งอาจจะยากเหมือนกันค่ะ