ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการสร้างระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ 2,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนที่สำคัญจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ที่มีการปรับตัวลงเคลื่อนไหวในระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ที่มีความอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด นั้นมีการปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
การปรับตัวลงดังกล่าว ถูกชี้นำจากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นต่อประเด็นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐนั้น ออกมาชะลอตัวลงในหลายรายการ อาทิ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่แม้มีการเพิ่มขึ้น 2.06 แสนรายในเดือนมิ.ย. สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.91 แสนราย แต่มีการปรับตัวเลขในเดือนเม.ย. และพ.ค. ลดลงรวมกันกว่า 1.10 แสนตำแหน่ง อีกทั้งพบการปรับตัวขึ้นของอัตราการว่างงานสู่ระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2021 สอดคล้องกับการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า
ขณะที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ของสหรัฐ พบการหดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อันนับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือตั้งแต่เดือนพ.ค. ปี 2020 นอกจากนั้น ข้อมูลด้านเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญอย่าง ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) แม้ออกมาตามคาดการณ์ แต่นับว่าเป็นไปในทิศทางชะลอตัวลง บ่งชี้ถึงความคืบหน้าในกระบวนการปรับตัวลงของเงินเฟ้อสหรัฐ สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้มีการให้ถ้อยแถลงที่แสดงทัศนะเชิงบวกต่อทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยชี้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนเพิ่มความมั่นใจของเฟดต่อการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อ ขณะที่ความคิดเห็นของกับเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย อาทิ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก นั้นได้แสดงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐเช่นเดียวกัน โดยนายวอลเลอร์มองว่า เฟดเข้าใกล้การเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้น
จากทั้งทิศทางข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐ ประกอบกับทัศนะเชิงบวกของเจ้าหน้าที่เฟด ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักขึ้นเหนือระดับ 90.0% ต่อคาดการณ์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. พร้อมเพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งนับเป็นกระแสคาดการณ์ที่มีทิศทางผ่อนคลายมากกว่าการส่งสัญญาณของเฟด เนื่องด้วยเฟดคาดการณ์ขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ในปีนี้
อย่างไรก็ดีหลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นสร้างระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ ราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไร ประกอบกับนักลงทุนได้ซึมซับกับสัญญาณเชิงบวกดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐนั้นมีการฟื้นตัวขึ้น ราคาทองคำจึงมีแรงหนุนที่อ่อนกำลังลง แต่กระนั้น ราคาทองคำยังมีแนวโน้มรักษาการเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไปได้ จากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง คอยกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐไม่อาจฟื้นตัวขึ้นได้มากเท่าใดนัก
อนึ่ง หากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. ตามกระแสคาดการณ์ของตลาดในปัจจุบัน ทางนักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะสามารถปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในช่วงสิ้นปีนี้ โดยยูบีเอสคาดการณ์ขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ 2 ครั้ง หรือ 0.50% ในปีนี้
ทว่าในปัจจุบันนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่เฟดรายใดที่สามารถให้สัญญาณถึงช่วงเวลาในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนได้ และยังคงให้ความเห็นในลักษณะที่คล้ายกันถึงความต้องการเห็นข้อมูลเงินเฟ้อในทิศทางชะลอตัวลงเพิ่มเติม โดยนายวอลเลอร์ ให้ความเห็นว่า เขาต้องการประเมินข้อมูลอีกหลายเดือนหลังจากนี้ ขณะที่นางดาลี ชี้ว่า แม้ข้อมูลในช่วงที่ผ่านมานั้นอยู่ในทิศทางที่ดี แต่เฟดยังคงต้องประเมินข้อมูลหลังจากนี้ต่อไป เพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้นต่อการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อ พร้อมเรียกร้องให้เฟดอดทนรอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ วายแอลจีประเมินว่า นักลงทุนได้ซึมซับความเป็นไปได้ต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ของเฟดแล้ว โดยแม้หากเฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ตามคาดการณ์ แต่หากหลังจากนั้น เฟดไม่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และส่งสัญญาณรักษาระดับความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป สถานการณ์เช่นนี้คาดว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับฐานการเคลื่อนไหวลง ซึ่งหากไม่มีปัจจัยเชิงบวกอื่นเข้ามาหนุน ราคาทองคำอาจไม่สามารถรักษาระดับการเคลื่อนไหวบริเวณ 2,390-2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ฉะนั้น แนะนำติดตามข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากนี้ อีกประการหนึ่ง ราคาทองคำอาจถูกชี้นำจากปัจจัยอื่นเพิ่มเติม อาทิ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงเดือนพ.ย. แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางชั้นนำแห่งอื่น และประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศในหลายพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งแนะติดตามประเด็นอื่นที่มีผลต่อการชี้นำราคาทองคำร่วมด้วยเช่นกัน เพื่อประเมินสถานการณ์ลงทุนอย่างถี่ถ้วน