การเงิน

วิกฤตเงินออมคนไทย 70% เงินเก็บไม่พอ 3 เดือน! สะท้อนความเหลื่อมล้ำ

20 มิ.ย. 67
วิกฤตเงินออมคนไทย  70% เงินเก็บไม่พอ 3 เดือน! สะท้อนความเหลื่อมล้ำ

ภาวะเงินฝืดเคืองไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่า คนไทยกว่า 70% มีเงินเก็บสำรองไม่พอใช้จ่ายถึง 3 เดือน! นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนบุคคล แต่สะท้อนถึงความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทยโดยรวม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่กำลังเผชิญกับวิกฤตนี้หนักหนาสาหัสที่สุด

วิกฤตเงินออมคนไทย SCB EIC เผย 70% เงินเก็บไม่พอ 3 เดือน! สะท้อนความเหลื่อมล้ำ

วิกฤตเงินออมคนไทย SCB EIC เผย  70% เงินเก็บไม่พอ 3 เดือน! สะท้อนความเหลื่อมล้ำ

จากข้อมูลการสำรวจของ SCB EIC Consumer Survey ในปี 2566 เผยให้เห็นภาพที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งของภาวะการเงินครัวเรือนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเปราะบางอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ยังคงกัดกินสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง

เงินออมไม่พอใช้ ระเบิดเวลาที่รอวันระเบิด

ตารางเงินเก็บสำรองฉุกเฉินเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด

รายได้ต่อเดือน ยังไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน 1-3 เดือน 4-6 เดือน 7-12 เดือน 13-24 เดือน มากกว่า 24 เดือน
ต่ำกว่า 15,000 บาท 51% 3ุุ5% 6% 4% 3% 1%
15,001-30,000 บาท 39% 40% 10% 5% 3% 3%
30,001-50,000 บาท 22% 39% 18% 12% 4% 6%
50,001-100,000 บาท 13% 34% 17% 17% 8% 11%
100,001-200,000 บาท 7% 32% 18% 11% 10% 22%
มากกว่า 200,000 บาท 9% 23% 15% 14% 9% 30%
เฉลี่ยนรายได้ต่อเดือนทั้งหมด 30% 36% 13% 9% 5% 7%

กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีเงินออมสำรองฉุกเฉินไม่ถึง 3 เดือน นั่นหมายความว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วยร้ายแรง หรือการตกงานกะทันหัน ครัวเรือนเหล่านี้จะประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงทันที ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานและกำลังสร้างครอบครัว กลับมีสัดส่วนผู้ไม่มีเงินออมสำรองฉุกเฉินเลยสูงถึง 39% เปรียบเสมือนการเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาดลงได้ทุกเมื่อ ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือนไม่มีเงินออมสำรองฉุกเฉินไม่ถึง 51 %

ขาดหลักประกันความเสี่ยง ความเสี่ยงที่ซ้ำเติมความเปราะบาง

ประเภทประกัน ยังไม่มีประกัน มีประกันชีวิต มีประกันอุบัติเหตุ มีประกันสุขภาพ
มีประกันบำนาญเพื่อการเกษียณ
ต่ำกว่า 15,000 บาท 37.2% 22.2% 21.8% 15.0% 3.8%
15,001-30,000 บาท 31.0% 26.7% 21.9% 15.1% 5.4%
30,001-50,000 บาท 22.7% 30.3% 24.3% 17.4% 5.3%
50,001-100,000 บาท 14.3% 31.8% 24.9% 20.5% 8.5%
100,001-200,000 บาท 7.5% 34.8% 22.6% 24.5% 10.7%
มากกว่า 200,000 บาท 5.3% 36.5% 23.3% 23.1% 11.9%
เฉลี่ยนรายได้ต่อเดือนทั้งหมด 17.0% 31.4% 23.4% 20.0% 8.2%

ไม่เพียงแต่ปัญหาการขาดเงินออมเท่านั้น แต่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยยังขาดหลักประกันความเสี่ยงที่สำคัญอีกด้วย ตัวอย่างเช่น กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีเพียง 3.8% เท่านั้น ที่มีประกันบำนาญเพื่อการเกษียณ ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้มากกว่า 200,000 บาทต่อเดือน มีสัดส่วนผู้มีประกันบำนาญสูงถึง 11.9% ความแตกต่างนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้มีรายได้น้อยมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับความยากลำบากในวัยเกษียณ เนื่องจากขาดแหล่งรายได้ที่มั่นคง

วัยทำงาน กลุ่มเสี่ยงที่ถูกหลงลืม

น่าเป็นห่วงว่า กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่กำลังเผชิญกับความเปราะบางทางการเงินนี้ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน อายุระหว่าง 31-40 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ควรจะมีความมั่นคงทางการเงินเพื่อรองรับภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวและการวางแผนอนาคต แต่ความเปราะบางทางการเงินที่พวกเขาเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสามารถในการลงทุนเพื่ออนาคต เช่น การศึกษาของบุตร หรือการซื้อบ้าน

ความเหลื่อมล้ำ รากเหง้าของปัญหาที่ต้องถอนรากถอนโคน

วิกฤตเงินออมคนไทย SCB EIC เผย  70% เงินเก็บไม่พอ 3 เดือน! สะท้อนความเหลื่อมล้ำ

ภาวะเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทยเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ฝังรากลึกในสังคมไทย หากไม่เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง อาจนำไปสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้างได้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การสร้างงานที่มีคุณภาพ และการให้ความรู้ทางการเงินอย่างทั่วถึง

ภาวะเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทยไม่ใช่เพียงปัญหาส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาของประเทศชาติ หากไม่เร่งแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว การสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีรายได้น้อย จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย

จากข้อมูลที่น่าตกใจเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทยไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป หากปล่อยไว้ อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง

ดังนั้น การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การสร้างงานที่มีคุณภาพ และการให้ความรู้ทางการเงินอย่างทั่วถึง จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชนทุกกลุ่ม และสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย

หมายเหตุ: ข้อมูลรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายหนี้สินของครัวเรือน นับเฉพาะครัวเรือนที่มีหนี้สินเท่านั้น

advertisement

SPOTLIGHT