“ความยั่งยืน เป็นเรื่องของทุกคน” ในช่วงปีที่ผ่านมาเราอาจจะได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ภูมิทัศน์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป แต่คำถามคือ ความยั่งยืน เป็นเรื่องของทุกคนได้จริงหรือไม่ เมื่อความตระหนักรู้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของแต่ละคนก็มีเลนซ์ที่แตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้น ‘ความรู้’ และ ‘ความเข้าใจ’ ในสิ่งแวดล้อมก็มีต้นทุนที่แตกต่างกันออกไป
แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้ “ความยั่งยืน เป็นเรื่องของทุกคน” เกิดขึ้นได้จริง นั้นก็คือ การให้ความรู้กับคน เพื่อปลุกกระแสสร้างความตื่นตัว มองเรื่องความยั่งยื่นเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากขึ้น ผ่านหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มาแรงที่สุด อย่าง TikTok ที่ไม่ว่าคน GEN ไหน ก็สามารถเข้าถึงได้
ทำให้ TikTok ได้มีการจับมือกับ กทม. ดึงพลังของ TikTok Creator และคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์ม ผลักดันคอนเทนต์คุณภาพอย่างโครงการ BKK Food Bank ให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมารู้จักกับโครงการ BKK Food Bank (ธนาคารอาหารกรุงเทพมหานคร) และพลังของ TikTok ที่สามารถส่งเสริมคอมมูนิตี้ให้ใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้
โครงการ BKK Food Bank หรือ ธนาคารอาหารกรุงเทพมหานคร คือ โครงการส่งต่ออาหารสู่กลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ประสบภัยพิบัติด้านต่างๆ ที่ยังขาดแคลนอาหารประจำวัน ที่รอความช่วยเหลือ รวมทั้งลดปัญหาอาหารเหลือทิ้ง (Food waste) ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พบว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตเป็นอาหารส่วนเกิน (Food surplus) ถูกทิ้งลงสู่หลุมฝังกลบทุกวัน และปลดปล่อยก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศโลก ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนรุนแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 28 เท่า
โดยโครงการ BKK Food ได้ดำเนินโครงการมาแล้วกว่า 2 ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2 ล้านกิโลกรัม โดยในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน (1 ต.ค. 67 - 19 พ.ย. 67) จัดตั้ง Food Bank ครบทั้ง 50 เขต สร้างระบบแต้มสะสมที่ช่วยเสริมพลังให้กลุ่มเปราะบาง และสามารถแจกจ่ายอาหารไปแล้วมากกว่า 3.3 ล้านมื้อ)
1. สำนักงานเขตมีการรับ - ส่งต่ออาหารส่วนเกิน (Food surplus) จาก “ผู้บริจาค สู่ ผู้รับ” ในพื้นที่และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางครอบคลุมทุกกลุ่ม ดำเนินการร่วมกับผู้บริจาค รับอาหารส่วนเกินสัปดาห์ละ 3 วัน (ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี) ขณะนี้มีร้านสะดวกซื้อเข้าร่วม จำนวน 665 แห่ง
2. การดำเนินการจัดตั้ง BKK Food Bank สำนักงานเขต ซึ่งมีแนวคิดรูปแบบการจัดหาสถานที่เพื่อจัดเก็บของและส่งต่ออาหาร สิ่งของจำเป็นต่างๆ เครื่องอุปโภคบริโภค (Food Donation) ให้กับผู้รับ(กลุ่มเป้าหมาย) โดยสำนักงานเขตมีหน้าที่ประเมินและให้คะแนนกลุ่มเป้าหมาย และให้ผู้รับ(กลุ่มเป้าหมาย) นำคะแนนที่ได้รับมาแลกรับสิ่งของจาก BKK Food Bank ตั้งแต่เริ่มดำเนินการมีผู้ร่วมแบ่งปันกับ BKK Food Bank สำนักงานเขต จำนวน 900 ราย และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางแล้วทั้งสิ้น จำนวน 7,656 ราย
ล่าสุด กทม.ได้ผนึกกำลังกับ TikTok แพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ชื่อดัง ต่อยอดโครงการ BKK FOOD BANK มุ่งขยายการเข้าถึง สร้างการตระหนักรู้และนำพาสังคมไทยเดินหน้าไปสู่สังคมแห่งการเกื้อหนุนที่ยั่งยืน พร้อมดึงพลังจาก TikTok Top Creator และคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์มช่วยกันทำคอนเทนต์ การจัดการอาหารและสิ่งของส่วนเกินอย่างมีคุณภาพ
ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโครงการฯ นี้ได้ง่าย ๆ เพียงเริ่มต้นจากการจัดการอาหารและสิ่งของส่วนเกินอย่างมีคุณภาพ โดยความร่วมมือนี้ กทม. และ TikTok คาดหวังว่าข้อมูลข่าวสารจะได้รับการถ่ายทอดในประเทศไทยด้วยคอนเทนต์คุณภาพ
จากการร่วมมือกับ TikTok ทำให้โครงการ #BKKFOODBANK ได้รับความสนใจไปในวงกว้างขึ้น สามารถแจกจ่ายอาหารได้มากถึง 1.1 ล้านมื้อ และลดก๊าซคาร์บอนได้มากกว่า 6.9 แสน กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากพลังคอมมูนิตี้ของแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "กรุงเทพมหานครดำเนินโครงการ BKK Food Bank ตั้งแต่ปี 2565 มีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสังคมที่ยั่งยืน ขยายการรับรู้เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงในสังคม ศักยภาพและพลังคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์ม TikTok สามารถช่วยเติมเต็มโครงการฯ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานหลายล้านคนและจุดเด่นของความเป็น Entertainment Platform ที่มักสอดแทรกสาระคู่ความบันเทิงเข้าไปในคอนเทนต์สร้างความน่าสนใจได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ TikTok ยังคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนต่าง ๆ ร่วมกับ กทม. โดยนำความสำเร็จมายัง