ฝรั่งเศสออกเงินให้คนซ่อมเสื้อผ้า ลดขยะ ลดคาร์บอนจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ

รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศออกเงินสนับสนุน ดันหลังองค์กรเอกชนออกโครงการให้ส่วนลดจูงใจให้ประชาชนนำเสื้อผ้าที่ขาดหรือเสียหายไปซ่อมแทนการทิ้ง เพื่อลดขยะ ลดการซื้อใหม่ รวมไปถึงลดการผลิตเสื้อผ้า เพื่อลดปริมาณคาร์บอนที่จากอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ปล่อยมลพิษสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

Bérangère Couillard รัฐมนตรีว่าการกระทรวงด้านสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส กล่าวว่า โครงการนี้จะดำเนินการโดย Refashion หน่วยงานเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเปิดให้ร้านตัดเย็บ ซ่อมแซมเสื้อผ้า รวมไปถึงร้านรองเท้าสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะได้รับเงินสนับสนุนเป็นส่วนลดให้ลูกค้าที่นำเสื้อผ้าเข้าไปซ่อม 

โดยเมื่อลูกค้านำเสื้อผ้า หรือเครื่องแต่งกายอื่นๆ เช่น รองเท้า ไปซ่อมในร้านที่เข้าร่วมโครงการเหล่านี้ ลูกค้าก็จะได้รับส่วนลดต่ำสุดตั้งแต่ชิ้นละ 6 ยูโร ไปถึงสูงสุด 25 ยูโร หรือราว 233-971 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการซ่อม และทางร้านค้าจะต้องส่งเรื่องไปให้ Refashion อีกที เพื่อเบิกเงินสนับสนุนส่วนลดจากรัฐบาล

Couillard ระบุว่า เงินสนับสนุนในโครงการนี้จะมาจากงบประมาณมูลค่าทั้งหมด 154 ล้านยูโรที่รัฐบาลกันไว้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการนี้ในระยะเวลา 5 ปี และประชาชนทั่วไปจะสามารถรับส่วนลดจากโครงการนี้ได้ตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้เป็นต้นไป

ในหลักการ โครงการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลฝรั่งเศสที่จะสนับสนุนให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ที่มีการหมุนเวียนนำวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มาใช้แทนทรัพยากรใหม่ ส่งเสริมการจ้างงานในธุรกิจซ่อมแซมเสื้อผ้า และแก้ปัญหา ‘ฟาสต์แฟชั่น’ ที่กระตุ้นให้เกิดทั้งการผลิตและซื้อเสื้อผ้ามากเกินความจำเป็น ซึ่งสิ้นเปลืองทรัพยากร ทำลายสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดปัญหาขยะ 

จากข้อมูลของ Refashion ในปี 2022 มีเสื้อผ้า รองเท้า และสิ่งทอที่ใช้ในบ้าน จำนวนมากถึง 3.3 พันล้านชิ้นเข้าสู่ตลาดแฟชั่นในฝรั่งเศส และมีเสื้อผ้ามากถึง 700,000 ตัน ถูกทิ้งต่อปี ซึ่งส่วนมากหรือประมาณ 2 ใน 3 ของเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งนี้จะไปลงเอยในบ่อฝังกลบ และสุดท้ายจะกลายไปเป็นมลพิษทำลายดินอีกที

Couillard ยังกล่าวเสริมอีกว่า ถ้าโลกยังปล่อยให้มีการผลิตและซื้อเสื้อผ้าแบบไม่มีลิมิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อุตสาหกรรมสิ่งทอจะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกภายในปี 2025 หรือเป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 25% ของโลกเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนให้ประชาชนซ่อมเสื้อผ้าก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่รัฐบาลฝรั่งเศสทำ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะในปี 2020 ฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภคในประเทศให้มีประสิทธิภาพและความยั่งยืนมากกว่าเดิม โดยมุ่งลดขยะ รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และลดผลกระทบต่อความหลากหลายของระบบนิเวศ

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสได้ปล่อยมาตรการมากมายเพื่อลดขยะและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเช่น ในปี 2022 ที่รัฐบาลออกกฎให้สถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้า โรงพยาบาล และโรงเรียน มีตู้กดน้ำฟรี เพื่อลดการซื้อน้ำเปล่าเป็นขวด รวมถึง การแบนร้านอาหารที่มีที่นั่งมากกว่า 20 ที่นั่งไม่ให้ใช้จานชามช้อนซ้อมพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งทุกชนิด

ปัจจุบัน รัฐบาลฝรั่งเศสยังบังคับให้ทุกบริษัทเปิดเผยแหล่งที่มาวัสดุที่นำมาผลิตสินค้า และแผนการกำจัดสินค้าที่เสื่อมสภาพแล้วของตัวเอง และมีแผนที่จะใช้มาตรการอื่นๆ เช่นการแบนไมโครพลาสติกในสินค้าทุกชนิด เช่น เครื่องสำอาง และแชมพู และแบนการใช้ wrap พลาสติกใสในอีก 3 ปีข้างหน้า

ที่มา: CNN, The Guardian