ความยั่งยืน

Uniqlo ผุดร้านมือ 2 ในฮาราจูกุ ราคาถูกลง 3 เท่า หวังดึงใจลูกค้ารักษ์โลก

13 ต.ค. 66
Uniqlo ผุดร้านมือ 2 ในฮาราจูกุ ราคาถูกลง 3 เท่า หวังดึงใจลูกค้ารักษ์โลก
Uniqlo นำร่องเปิดร้าน pop-up ขายเสื้อผ้ามือสองแห่งแรกของแบรนด์ในย่านฮาราจูกุ เมืองโตเกียว หวังช่วยลดขยะเสื้อผ้าจากฟาสต์แฟชั่น สนับสนุนการใช้เสื้อผ้าซ้ำ และจูงใจผู้บริโภคที่ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับผลกระทบของธุรกิจต่างๆ ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ปัจจุบัน หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมมากที่สุดก็คืออุตสาหกรรมแฟชั่น เพราะในปัจจุบันธุรกิจเครื่องแต่งกายออกแบบเสื้อผ้าใหม่ถี่และมีจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมนิยมซื้อเสื้อผ้าตามกระแสนิยม และใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็อาจจะทิ้งแล้วซื้อใหม่ กลายเป็นขยะ และเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเส้นใย สีย้อม และพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตและขนส่ง

ดังนั้น ผู้ผลิตเสื้อผ้าในปัจจุบันจึงหันมาปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินธุรกิจของตัวเองให้ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งด้วยการนำเสื้อผ้าเดิมมารีไซเคิล หรือการสนับสนุนให้คนใช้เสื้อซ้ำ โดยล่าสุดในวันพุธที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา Uniqlo ผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่จากญี่ปุ่นก็เพิ่งได้มีการเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสองในย่านฮาราจูกุ เพื่อกระตุ้นให้มีการหมุนเวียนทรัพยากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้ามากขึ้น

จากการรายงานของ Nikkei Asia ร้าน pop-up ในย่านฮาราจูกุเป็นร้านเสื้อผ้ามือสองแห่งแรกที่ Uniqlo เปิดนำร่องในญี่ปุ่นเพื่อดูการตอบรับของผู้บริโภค โดย Uniqlo รวบรวมเสื้อผ้าเก่าจากลูกค้ามากถึง 400-500 ชิ้น รวมไปถึงสเว็ตเตอร์ เสื้อกันหนาวผ้าฟลีซ และกางเกง มาซ่อมแซม รวมไปถึงย้อมสีใหม่แล้วนำไปวางขายในร้าน โดยส่วนมากตั้งราคาไว้ต่ำถึง 3 เท่าของราคาสินค้าปกติ 

โดยหากดูจากการตอบรับเบื้องต้นในวันพุธ ราคาของสินค้าที่ถูกลงทำให้มีผู้สนใจซื้อเสื้อในร้านมือสองของ Uniqlo เป็นจำนวนมาก เพราะผู้บริโภคบางคนไม่ต้องการซื้อเสื้อผ้าชิ้นใหญ่ราคาแพงเช่น สเวตเตอร์แคชเมียร์ โค้ท หรือแจ็คเก็ตในราคาเต็ม และผู้บริโภคบางคนก็มีรายได้ไม่เพียงพอซื้อสินค้าราคาเต็มของ Uniqlo

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดร้านเสื้อผ้ามือสองขึ้น Uniqlo ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจเพื่อให้ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นบ้างแล้ว ทั้งการรับเก็บและรีไซเคิลเสื้อผ้าฟลีซในปี 2001 ก่อนจะขยายบริการไปยังทุกสินค้าในปี 2006 และการออกบริการรับซ่อมเสื้อผ้าในปี 2021 ซึ่งในปัจจุบันมีให้บริการแล้วในร้านค้า 33 แห่ง ใน 14 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก



ที่มา: Nikkei Asia


advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT