ความยั่งยืน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

6 ต.ค. 67
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็วและเต็มไปด้วยการแข่งขัน การจะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืน ต้องอาศัยมากกว่าแค่กลยุทธ์ทางการตลาด หรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมอบไว้ คือ กุญแจสำคัญอที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตอย่างมั่นคง และ ยั่งยืน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง

บทความนี้ จะพาคุณไปสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับความสำเร็จของธุรกิจพร้อมไปดูกรณีศึกษา 4 ธุรกิจต้นแบบ ที่ได้นำหลักปรัชญาดังกล่าวไปประยุกต์ใช้จนประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ SME Startup หรือเกษตรกร บทความนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจและแนวทางที่จะช่วยให้คุณค้นพบสูตรสำเร็จ สู่ ความยั่งยืนที่แท้จริง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

งานสัมมนา สมดุลที่พอดี เพื่อโลกที่ดีกว่า ซึ่งจัดโดยหอการค้าไทย ในวันนี้ เราจะได้ร่วมกันศึกษาถึงความสำเร็จของโครงการ ก้าวพอดี อันเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืน ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ Sustainable Brands (SB) Thailand มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยมีคุณณัฐวุฒิ ชวินกุล รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการ นอกจากนี้ ท่านผู้มีเกียรติจะได้พบกับกรณีศึกษาจาก 4 ธุรกิจต้นแบบ ที่ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ จนประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์

แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับภาคธุรกิจในปัจจุบัน ก้าวไปด้วยกันได้อย่างพอดีจริงหรือ

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดย คุณ กอบกาญจน์ ได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำว่า ไม่ใช่เพียงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านเท่านั้น แต่หลักปรัชญาดังกล่าว ยังเป็นกรอบแนวคิดที่ทรงคุณค่า ที่ช่วยเตือนสติให้คนไทย รู้จัก ประมาณตน มีเหตุผล และ เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการประกอบธุรกิจ

แม้หอการค้าแห่งประเทศไทย จะมีภารกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนาภาคธุรกิจ แต่ก็มิได้ละเลยความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยคำนึงถึงศักยภาพ และอัตลักษณ์ ของแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ดังคำกล่าวที่ว่า กรุงเทพฯ มิใช่ประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทุกจังหวัด ล้วนมีทรัพยากร ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นของตนเอง

การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ จึงเปรียบเสมือนการ สำรวจตนเอง เพื่อค้นหาจุดแข็ง นำมาต่อยอด พัฒนา และขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความผันผวน การ รู้จักตนเอง รู้จักทรัพยากรที่มี และ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ คือปัจจัยแห่งความสำเร็จ ที่จะนำพาประเทศชาติ และภาคธุรกิจ ให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการแบ่งปัน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสังคม

ความพอดีกับความยั่งยืน สองด้านของเหรียญเดียวกัน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ Sustainable Brands (SB) Thailand ได้อธิบายความเชื่อมโยงระหว่าง "ความพอดี" และ "ความยั่งยืน" ไว้อย่างน่าสนใจ โดยชี้ให้เห็นว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ กุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืนของประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวคิดที่คนไทยควรภาคภูมิใจ และนำมาประยุกต์ใช้ มากกว่าที่จะมุ่งแต่เดินตามแนวทางของต่างชาติ

3 ห่วง 2 เงื่อนไข สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

ดร. ศิริกุล ได้ขยายความ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงกับการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน ดังนี้

  • รู้จักตน ประมาณตน: เปรียบเสมือนการทำ SWOT analysis เพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค รวมถึงการสร้างแบรนด์ (branding) เพื่อค้นหาอัตลักษณ์ และคุณค่าที่แท้จริงขององค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสม และการเลือก "แข่งขันในเวทีที่ตนเองมีโอกาสชนะ"
  • มีเหตุผล: คือ การวางแผนกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ คำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) ซึ่งรวมถึงการคำนวณ "รอยเท้าคาร์บอน" (carbon footprint) จากกระบวนการผลิต
  • มีภูมิคุ้มกัน: คือ การบริหารความเสี่ยง และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) โดยเฉพาะชุมชน ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง ในยามที่ธุรกิจเผชิญวิกฤต
  • เงื่อนไขความรู้: หมายถึง การพัฒนาองค์ความรู้ และทักษะอย่างต่อเนื่อง (lifelong learning) เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
  • เงื่อนไขคุณธรรม: คือ การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม

สมดุลคือหัวใจสำคัญ

การดำเนินธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน ต้องอาศัย ความสมดุล ระหว่าง ผลกำไร (Profit) ผู้คน (People) และ สิ่งแวดล้อม (Planet) ซึ่งเป็นความท้าทายที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องเผชิญ

ผลลัพธ์แห่งความพอดี

เมื่อทุกภาคส่วนร่วมกันน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่งดงาม ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม เช่น

  • การเป็น ผู้พึ่งพาตนเอง ไม่เป็นภาระของผู้อื่น
  • การ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยการช่วยเหลือ และแบ่งปัน ซึ่งกันและกัน
  • การสร้าง ความสมดุล ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ดร. ศิริกุล ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ศาสตร์พระราชา คือ เครื่องมือสำคัญ ที่จะนำพาประเทศไทย ไปสู่ความยั่งยืน และเป็นต้นแบบให้กับนานาประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจ

เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่ใช้ได้จริงในโลกธุรกิจ โมเดลเกษตรสร้างสรรค์

จากที่พี่หนุ่ยได้กรุณาอธิบายเรื่อง ความสมดุล และ ความยั่งยืน รวมถึงแนะนำให้ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข วันนี้เรามีตัวอย่างธุรกิจ 4 โมเดล ที่นำหลักปรัชญาดังกล่าวไปปรับใช้จนประสบความสำเร็จมาเล่าให้ฟัง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

โมเดลแรกคือ เกษตรสร้างสรรค์ มี 2 ธุรกิจด้วยกัน ธุรกิจแรกคือ ร้อยเอ็ด Lands ของ คุณศีลสุภา วรรณสุทธิ์ เป็นสวนอินทผาลัม ปลูกข้าวหอมมะลิ มีที่พัก แหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยนำวัฒนธรรม ผ้าสาเก มาเป็นอัตลักษณ์ ร่วมกับชุมชนพัฒนาเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐาน GMP/GAP มีการสร้างแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ให้นักศึกษาออกแบบโลโก้ และจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน และส่งเสริม Responsible Tourism ความท้าทายคือการสร้างสมดุลระหว่างผลผลิตกับสิ่งแวดล้อม เช่น การควบคุมแมลงโดยไม่ใช้สารเคมี และปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม ซึ่งคุณสินสุภาแก้ปัญหาด้วยการใช้สารสกัดธรรมชาติ บริหารจัดการน้ำ ทำเกษตรแบบผสมผสาน และพัฒนาสายพันธุ์พืช

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ธุรกิจที่สองคือ บริษัท มาในกรุ๊ป ของ คุณอมร เหลืองนฤมิตชัย ทำธุรกิจเลี้ยงปลานิลครบวงจร พัฒนาสายพันธุ์ จำหน่ายลูกพันธุ์ อาหาร และแปรรูปส่งออก โดยสืบสานพระราชปณิธานด้าน Food Security และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดพลาสติก ใช้พลังงานสะอาด ปลูกป่าชายเลน ความท้าทายคือภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และการปรับทัศนคติพนักงานเรื่องลดพลาสติกและแยกขยะ ซึ่งคุณอมรแก้ปัญหาด้วยการลดใช้ถุงพลาสติก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ปลูกป่าชายเลน และส่งเสริมการแยกขยะ

คุณสินสุภาฝากข้อคิดว่า ให้ค้นหา จุดเด่น ของท้องถิ่น ใช้ ทุนทางวัฒนธรรม สร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบสนองความต้องการลูกค้า ส่วนคุณอมรแนะนำให้บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคล ก้าวแบบพอดี เริ่มต้นลงมือทำ และ เปลี่ยน Mindset

โรงแรมรักษ์โลก ต้นแบบธุรกิจท่องเที่ยวยั่งยืน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

สำหรับโมเดลโรงแรมรักษ์โลก ในวันนี้มี 2 โรงแรมมาแบ่งปันประสบการณ์ เริ่มจาก โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ เล่าโดย คุณหนิง อลิสรา ศิวยาธร ซึ่งเป็น Green Hotel โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยเฉพาะเรื่อง รู้ตน ประมาณตน มุ่งสู่การเป็น โรงแรมแห่งความสุขอย่างสมดุลและการแบ่งปันอย่างยั่งยืน ดูแลพนักงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผ่านโมเดล Happy Workplace ใช้อาหารออร์แกนิกจาก 60 ชุมชนทั่วประเทศ หมุนเวียนเม็ดเงินเกือบ 20 ล้านบาท เป็น Zero Food Waste Hotel เลี้ยงหนอนแมลงวันลาย ส่งต่อเป็นอาหารไก่ และยังเปิดโรงแรมเป็น Learning Center ให้ผู้ประกอบการอื่นๆ ได้เรียนรู้ด้วย ความท้าทายในช่วงแรกคือ ลูกค้ายังไม่ตอบรับแนวคิด Green Hotel เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นนักธุรกิจ แต่โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว แต่คุณหนิงก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนแนวคิด ค้นหาจุดยืน มุ่งเน้นความสุขของพนักงาน และการแบ่งปันสู่ชุมชน นำเสนออาหารออร์แกนิก และสร้างความแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

โรงแรมที่สองคือ Blu Monkey Hub & Hotel จ.กระบี่เล่าโดยคุณเมย์ วิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา ซึ่งนำแนวคิด กระบี่โกกรีน มาใช้ เป็น Information Center ให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว นำเสนออาหารเช้าจากร้านค้าท้องถิ่น จำหน่ายกาแฟโรบัสต้า จัด Workshop งานศิลปะจากขยะทะเล เชื่อมโยงกับชุมชนท่องเที่ยว จัดทริปล่องเรือ นำเสนอ Eco Printing และ ผ้ามัดย้อม และยังขยายผลแนวคิด กระบี่โกกรีน ไปสู่โรงแรมในเครือ Blue Monkey 16 สาขาทั่วประเทศ ความท้าทายคือ เริ่มต้นธุรกิจแบบยังไม่มีแนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อม และตั้งอยู่ในตัวเมือง ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก แต่คุณเมย์ก็แก้ปัญหาด้วยการเรียนรู้จากโรงแรมต้นแบบ นำแนวคิด กระบี่โกกรีน มาใช้ สร้างจุดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างเครือข่าย กระจายรายได้สู่ชุมชน และขยายผลสู่โรงแรมอื่นๆ ในเครือ

สำหรับการสื่อสารกับพนักงาน คุณหนิงใช้โมเดล Happy Workplace จัดกิจกรรม ให้ความรู้ พาไปดูงาน สร้างแรงบันดาลใจ ร่วมกันสร้าง Advantage ส่วนคุณเมย์ปลูกฝังเรื่อง การทำความดี และ ส่งพลังงานดีๆ ให้พนักงาน เพื่อส่งต่อให้ลูกค้า และสื่อสารแนวคิด กระบี่โกกรีน ให้ลูกค้ารับรู้

เที่ยวไทยอย่างรับผิดชอบ ใส่ใจชุมชน รักษาสิ่งแวดล้อม

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

โมเดลที่ 3 คือ การท่องเที่ยวยั่งยืน มี 2 ธุรกิจ ธุรกิจแรกคือ กระเตงทะเล ระนอง โดย คุณอาทิตยา อรรถีโสตร์ ซึ่งต่อยอดธุรกิจฟาร์มหอยของครอบครัว มาพัฒนา การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ชุมชนบ้านเขาฝาชี อำเภอละอุ่น โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น จุดชมวิวเขาฝาชี และคลองละอุ่น มาสร้างกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น หาหอยไฟไหม้ หาเคย แกะหอยนางรม ดินเนอร์ยอดเขาฝาชี ล่องเรือแจว และ ตกกุ้งแม่น้ำกระบุรี โดยให้ธรรมชาติเป็นตัวกำหนด และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน และสร้างความตระหนักรู้ในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งในช่วงแรก ชาวบ้านมองว่าธุรกิจนี้เข้ามาหาผลประโยชน์จากชุมชน แต่คุณอาทิตยาก็นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาสร้างความสมดุล ระหว่างชุมชน สิ่งแวดล้อม และธุรกิจ จนประสบความสำเร็จ

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ธุรกิจที่สองคือ วังตะพา รีสอร์ท โดย คุณยอดตอง เชฐกุล ซึ่งใช้ ต้นทุนทางธรรมชาติ คือ น้ำตกแก่งหินเพิง มาสร้างกิจกรรมล่องแก่ง นำเสนอ ขนมไทย เป็นอาหารเช้า ทำฟาร์มไก่ แบบ Zero Waste ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังฝึกอบรมชาวบ้าน และเยาวชน ให้เป็นเจ้าหน้าที่ล่องแก่ง เพื่อลดปัญหาการใช้สารเสพติด และสร้างรายได้ให้ชุมชน ซึ่งความท้าทายคือ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ในจังหวัดรอง ต้องแข่งขันกับธุรกิจใหญ่ แต่คุณยอดตองก็แก้ปัญหาด้วยการค้นหา จุดยืน นำเสนอสิ่งที่แตกต่าง เช่น ขนมไทย อาหารจากฟาร์ม และกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในการรับมือกับความต้องการของนักท่องเที่ยว กระเตงทะเลใช้ ธรรมชาติ เป็นตัวกำหนดกิจกรรม สร้างความเข้าใจ และความตระหนักในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่วน วังตะพา รีสอร์ท นำเสนอ ความเรียบง่าย ขนมไทย และ อาหารธรรมชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง

เทรนด์อาหารในอนาคต กับ Future Food: โมเดลอาหารเพื่ออนาคต

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ในส่วนของโมเดลอาหารเพื่ออนาคต มี 2 ธุรกิจ ธุรกิจแรกคือ บริษัท ตะวันบอตต์แอนด์แคน จำกัด จ.สุพรรณบุรี เล่าโดย คุณสุนิติ เกิดสงกรานต์ ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องดื่มที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นอากง เริ่มจาก น้ำเน็ต แล้วพัฒนามาเป็น โอเลี้ยงตราทานตะวัน ชาดำเย็น ผลไม้กระป๋อง และล่าสุดคือ น้ำผลไม้เข้มข้น 100% และ เวย์โปรตีนพร้อมดื่ม โดยมุ่งเน้น ประโยชน์ ความปลอดภัย ความมั่นคง และ ความยั่งยืน ให้ความสำคัญกับ สุขภาพ และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งธุรกิจนี้ต้องปรับตัวตามยุคสมัย และความต้องการของผู้บริโภค เช่น การแข่งขันจากบริษัทใหญ่ การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และเทรนด์สุขภาพ คุณสุนิตติจึงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น ผลไม้กระป๋อง น้ำผลไม้เข้มข้น และเวย์โปรตีนพร้อมดื่ม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และสร้างความหลากหลายให้ธุรกิจ

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ธุรกิจที่สองคือ เฮือนคำนาง เล่าโดย คุณ ณัฏฐภรณ์ คมจิต ซึ่งนำเสนอ อาหารอีสาน เป็น Future Food และ Functional Food โดยใช้ ต้นทุนทางวัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างมูลค่าเพิ่ม บอกเล่าเรื่องราวของอีสาน ผ่านอาหาร เช่น เกลืออีสาน และ ปลาร้า ซึ่งเป็น Food Security และ ภูมิปัญญาร่วมของมวลมนุษยชาติ นอกจากนี้ ยังเปิด ศูนย์การเรียนรู้ และ พัฒนาชุมชน โดยนำเสนอ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) เช่น ปูทัวร์ ซึ่งคุณณัฐพรเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีพื้นฐานธุรกิจ แต่ก็ใช้ ต้นทุนทางวัฒนธรรม ที่มี สร้าง จุดยืน ให้ธุรกิจ มุ่งเน้นการ อนุรักษ์ และ ต่อยอดภูมิปัญญา

นอกจากนี้ คุณสุนิติมองว่า เทรนด์อาหารในอนาคต ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับ ประโยชน์ ความปลอดภัย และ ความยั่งยืน ของอาหาร ส่วนคุณณัฐพร มองว่า อาหารอีสาน เป็น Future Food ที่ตอบโจทย์ ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) สุขภาพ (Functional Food) และ การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) และมี โอกาส เติบโตสูง เนื่องจากเป็นอาหารที่ ดีต่อสุขภาพ รักษาโรค และมี เอกลักษณ์ โดดเด่น สามารถต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม และ เข้าถึงผู้คนทั่วโลก ได้

ลงมือทำ ด้วยหัวใจพอเพียง ก้าวต่อไป อย่างมั่นใจ ไม่มีวันแพ้

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ได้กล่าวถึงทิศทางของโครงการ ก้าวพอดี ในอนาคต โดยมุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อน และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการไทย ให้เกิดการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

ท่านได้ตั้งคำถามเชิงวาทศิลป์ เพื่อกระตุ้นเตือนให้เกิดการตระหนักรู้ และวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่

  • ภาคธุรกิจไทย ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะฟันฝ่าอุปสรรค และดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่
  • แต่ละภูมิภาค มีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนา และแข่งขันได้หรือไม่
  • และประเทศไทย จะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างไร

จากนั้น ท่านได้อ้างอิงถึงกรณีศึกษา 4 ธุรกิจ อันประกอบด้วย ภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จ จากการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นรากฐาน แม้จะเริ่มต้นจากศูนย์ เผชิญกับความล้มเหลว และความไม่รู้ แต่ด้วย ความวิริยะอุตสาหะ ความเชื่อมั่นในศักยภาพ และ วิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทำให้สามารถเอาชนะอุปสรรค และบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

คุณกอบกาญจน์ ได้ตอกย้ำถึงแก่นแท้ของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มิใช่เพียงการหลีกเลี่ยงความล้มเหลว แต่คือการ เตรียมพร้อมรับมือ เรียนรู้จากความผิดพลาด และ ปรับตัวเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คุณกอบกาญจน์ ได้กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ลงมือปฏิบัติ มิใช่เพียง รับฟัง หรือ เกิดความรู้สึกชื่นชม แต่ควรนำองค์ความรู้ และแรงบันดาลใจ ไป ต่อยอด พัฒนา และ สร้างสรรค์ นวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ และประเทศชาติ สู่ความยั่งยืน

โครงการ พอแล้วดี The Creator สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย ที่สามารถ พึ่งพาตนเองได้ แข่งขันได้ และ ประสบความสำเร็จได้ ด้วย การปรับเปลี่ยนทัศนคติ มีความเชื่อมั่นในตนเอง และ ความสามัคคี ในท้ายที่สุด คุณกอบกาญจน์ ได้แสดงความเชื่อมั่น และเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ร่วมกัน สร้างสรรค์อนาคตของประเทศไทยด้วยความภาคภูมิใจอย่างความมุ่งมั่น และ ความร่วมมือร่วมใจ

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มรดกแห่งความยั่งยืน จากรุ่นสู่รุ่น

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ได้กล่าวถึงการ ก้าวต่อไปกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญ และคุณค่าของหลักปรัชญาดังกล่าว ในการสร้างความยั่งยืน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ท่านเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงเหตุการณ์ วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันมหาวิปโยค ในอดีตที่ผ่านพ้นไป ซึ่งสร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่คนไทยทั้งประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงเวลาที่คนไทย รวมใจเป็นหนึ่ง และ แสดงพลังแห่งความรักต่อท่านออกมาอย่างน่าประทับใจ

ดร. ศิริกุล เชื่อมั่นว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ Legacy อันทรงคุณค่า ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทพระวรกาย คิดค้น และพัฒนาขึ้น เพื่อ ความอยู่ดีกินดี และ ความยั่งยืน ของปวงชนชาวไทย ซึ่งคนไทยทุกคน ควรภาคภูมิใจ และน้อมนำมาประยุกต์ใช้ จากนั้น ท่านได้อธิบายถึง วิวัฒนาการ ของแนวคิด ความยั่งยืน ซึ่งในอดีต มนุษย์ใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย จนเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามมาด้วยแนวคิด การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า (Reduce, Reuse, Recycle) เพื่อ ยืดอายุ การใช้งาน ซึ่งเป็นเพียง การประวิงเวลา มิใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

แนวคิด ความยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน จึงมุ่งเน้น การฟื้นฟู (Regenerative) เพื่อ คืนความสมดุล ให้กับธรรมชาติ เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล การฟื้นฟูป่าไม้ และการปรับปรุงคุณภาพดิน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแนวคิด ความยั่งยืน จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ความพอประมาณ ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ ดังคำกล่าวที่ว่า ทางสายกลาง หรือ การมีสติ ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นเสมือน คาถา หรือ กรอบแนวคิด ที่ช่วยให้เรา ตระหนักรู้ ใช้เหตุผล และ ตัดสินใจ อย่าง สมดุล เพื่อ ความยั่งยืน ในทุกมิติ

บทส่งท้าย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เข็มทิศนำทางธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับธุรกิจ สูตรสำเร็จสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

จากกรณีศึกษา 4 กลุ่มธุรกิจ ที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่า ปรัชญานี้มิใช่เพียงทฤษฎี แต่เป็น แนวทางปฏิบัติ ที่สามารถนำมาใช้ได้จริง ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน หัวใจสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การ รู้จักตนเอง ประมาณตน มีเหตุผล และ สร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะนำไปสู่ ความสมดุล ระหว่าง ผลกำไร สังคม และ สิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานของ ความยั่งยืน ที่แท้จริง

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในภาคส่วนใด การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ สามารถ เติบโตอย่างมั่นคง รับมือกับความเปลี่ยนแปลง และ บรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืน ได้อย่างแท้จริง ขอเชิญชวนผู้ประกอบการทุกท่าน ร่วมกันนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปเป็น เข็มทิศ ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้าง อนาคตที่ยั่งยืน ให้กับประเทศไทย

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT