ลูก ‘กรอก’ (Grok) ของ Elon Musk แชทบอท AI สุดกวน เก่งกว่า ChatGPT

‘xAI’ บริษัทลูกเจาะลึกเฉพาะด้าน AI ของ Elon Musk ส่งลูกรักคนใหม่ ‘Grok’ (กรอก) ลงแข่งขันในสนามแชทบอท AI ชูจุดเด่นกล้าตอบทุกคำถาม - ดูดข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก X ท้าชนแชทบอทรุ่นพี่อย่าง ChatGPT เตรียมแจกให้ผู้ใช้ X แบบ Premium+ ได้ใช้ก่อนใคร

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

หลัง Elon Musk เปิดตัวบริษัท ‘xAI’ เมื่อเดินกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ AI ตัวแรกของบริษัท นั่นคือ ‘Grok’ แชทบอทที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แนวตลก-ไซไฟเรื่อง “The Hitchhiker's Guide to the Galaxy” ซึ่ง Musk หวังใส่มุมมองใหม่ๆ ด้วยการเติมความ ‘หรรษา’ ให้กับโลกแห่งปัญญาประดิษฐ์ ก่อนหน้านี้ Musk เคยออกมาพูดเรื่องความเห็นที่แตกต่างของตนว่า แชทบอท AI ไม่ควรถูกเซนเซอร์ หรือกำกับดูแล เพราะอาจเกิดอคติ หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แชทบอทลูก Grok ของ Musk จึงกล้าตอบทุกคำถาม แถมยังเติมความยียวนกวนโอ๊ยลงไปเพิ่มอีก จน Musk ออกมาทวีตบนบัญชีส่วนตัวของเขาว่า “Grok ชอบมุกตลกร้าย ไม่รู้เลยว่าใครสอนมา”

ชื่อ ‘Grok’ ของแชทบอท AI ตัวนี้ มีที่มาจากนิยายไซไฟเรื่อง "Stranger in a Strange Land" ของนักเขียน Robert A. Heinlein ซึ่งเป็นภาษาดาวอังคาร ความหมายประมาณว่า "เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เข้าใจด้วยสัญชาตญาณ" ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของเจ้าแชทบอทตัวนี้ที่สามารถเข้าใจ และตอบสนองต่อสารพัดคำถามจากผู้ได้นั่นเอง

 

จุดเด่นของ Grok AI คือการกล้าตอบคำถามที่อาจดู ‘เผ็ดร้อน’ ที่ AI อื่นไม่กล้าตอบ Musk สาธิตโดยการขอให้ Grok สอนวิธีผลิต ‘โคเคน’ ซึ่ง Grok ก็ยอมตอบ แต่ยังมีคำเตือนแบบกวนโอ๊ยเพื่อเตือนผู้ใช้อยู่ และอีกจุดแข็งของ Grok คือการเข้าถึงข้อมูลบน X ได้แบบเรียลไทม์ ในตอนนี้ Grok ยังอยู่ในขั้นการทดสอบแบบ Beta ในกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะ ซึ่งหลังจากนี้จะเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้งาน X Premium+ ที่ต้องจ่ายรายเดือนเดือนละ 16 ดอลลาร์ (ราว 570 บาท) เป็นอีกหนึ่งบริการ AI ที่เข้ามาแข่งในตลาด
 

เบื้องหลังความฉลาดและความกวนของ Grok คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่มีชื่อว่า Grok-1 (แบบเดียวกับที่ GPT-3.5 เป็นมันสมองเบื้องหลังของ ChatGPT) ซึ่งทีม xAI พัฒนาขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้น ซึ่ง Grok-1 มีขนาดอยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านพารามีเตอร์ (ในขณะที่ GPT-3.5 มีขนาด 1.75 แสนล้านพารามีเตอร์, และ GPT-4 มีขนาด 1.5 ล้านล้านพารามีเตอร์) และจากการทดสอบประสิทธิภาพพบว่า Gork-1 นั้นเก่งกว่า GPT-3.5 ของค่าย OpenAI แต่ยังไม่สู้ GPT-4 ซึ่งเรียนรู้จากคลังข้อมูลที่ใหญ่กว่าได้

สำหรับ Grok-1 นั้นใช้งานสูงสุดได้ที่ 8,192 token สูงกว่า GPT-3.5 (4,096 tokens) เทียบเท่า GPT-4 (รองรับได้สูงสุดถึง 32,768 tokens แต่จำกัดการใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 8,192 tokens) ซึ่งสำหรับผู้ใช้ของ ChatGPT ที่อยากได้ขุมพลังของ GPT-4 นั้น จะต้องชำระเงินเพิ่มเดือนละ 20 ดอลลาร์ ทำให้ Grok-1 สามารถแข่งขันด้านราคาได้ แถมผู้ใช้ยังไงฟีเจอร์อื่นๆ ของ X Premium+ ไปด้วย

 

แต่แม้จะเก่งในหลายด้าน แต่ Grok-1 ก็ยังมีไม่เปิดให้เข้าถึงเว็บบราวเซอร์ และมีอาการอ๋องๆ เอ๋อๆ หลอนๆ เป็นครั้งคราว ซึ่ง xAI ก็กำลังเร่งจัดการกับเรื่องนี้อยู่ และเตรียมที่จะเปิดเผยแผนการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ในเดือนที่กำลังจะมาถึงนี้

 


ที่มา : CNN, CNBC, AIBusiness