กระแสมาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีผู้เล่นรายใหม่จำนวนมาก ก้าวขาเข้ามาในอุตสาหกรรม EV ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งล่าสุด Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษา รายงานว่า ในปีนี้ ตลาด EV จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 18.4 ล้านคัน และเพิ่มเป็น 20.6 ล้านคันในปี 2568
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้กำลังพัฒนาจาก 'ยุคตื่นทอง' ไปสู่ 'ยุคผู้เหมาะสมที่สุดเท่านั้นจึงอยู่รอด' หรือพูดง่ายๆ ความสำเร็จของบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมตอนนี้ ถูกจำกัดความสามารถอย่างหนักในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ EV ในยุคแรก
โดย Gartner คาดการณ์ว่า ภายในปี 2570 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ผู้ผลิตและบริษัท EV จะต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมดังต่อไปนี้:
- การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) จะมีราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าการผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน (ICE) – วิธีการผลิตแบบใหม่จะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตและเวลาในการประกอบรถ โดยผู้นำตลาด OEM รายใหม่ต้องการกำหนดนิยามที่ชัดเจนให้กับสถานะที่เป็นอยู่ในวงการยานยนต์ โดยนำนวัตกรรมที่ช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตง่ายขึ้น เช่น สถาปัตยกรรมยานยนต์แบบรวมศูนย์ (Centralized Vehicle Architecture) หรือการนำ Gigacasting มาใช้
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการซ่อมแซมตัวถัง EV และแบตเตอรี่อุบัติเหตุร้ายแรงจะเพิ่มขึ้น 30% – รถที่เกิดอุบัติเหตุและเสียหายมีแนวโน้มที่จะ Write-Off มากกว่าซ่อมแซม เพราะค่าซ่อมแซมอาจมีราคาสูงกว่ามูลค่าคงเหลือของรถ และอาจทำให้ค่าเบี้ยประกันแพงขึ้น
- 15% ของบริษัท EV ที่ก่อตั้งขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะถูกซื้อกิจการหรือล้มละลาย – อุตสาหกรรม EV กำลังการเข้าสู่ยุคที่บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะในตลาด และจะมีบริษัทบางกลุ่มเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรม EV จำนวนมากหันมาผนึกกำลังร่วมกัน