ธุรกิจการตลาด

ส่องอนาคต Facebook เน้นคนรุ่นใหม่-ลงทุน AI หลัง Reels เติบโตสูงสุด

25 ก.ค. 67
ส่องอนาคต Facebook เน้นคนรุ่นใหม่-ลงทุน AI หลัง Reels เติบโตสูงสุด
ไฮไลท์ Highlight

เป้าหมายของ Facebook คือ การเป็นพื้นที่โซเชียลที่ช่วยให้ผู้คนค้นพบเนื้อหา และสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ แต่พฤติกรรมในการค้นหาและค้นพบของผู้คนในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ Facebook มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้โซเชียลมีเดียรุ่นใหม่ และพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วย AI

หากถามว่า แพลตฟอร์มโชเชียลมีเดียแห่งแรกที่คุณสมัครคืออะไร? เชื่อว่าส่วนใหญ่ต้องตอบว่า ‘Facebook’ แน่นอน เพราะ Facebook เปรียบเสมือนพื้นที่การค้นพบทางโซเชียล ที่เปิดโลกของผู้ใช้งานทั้งในมุมเล็กและมุมใหญ่ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือสร้างภาพลักษณ์แต่อย่างใด

โดยเป้าหมายของ Facebook คือ การเป็นพื้นที่โซเชียลที่ช่วยให้ผู้คนค้นพบสิ่งต่างๆ เสมอมา รวมทั้งสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่รวบรวมความชื่นชอบในเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันกับผู้ใช้งานทั่วโลก โดยปัจจุบัน Facebook มีผู้ใช้งานทะลุ 3 พันล้านคนต่อเดือน และยังเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

แต่พฤติกรรมในการค้นหาและค้นพบของผู้คนในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ Facebook มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้โซเชียลมีเดียรุ่นใหม่ ด้วยการกำหนดสองทิศทางหลักที่ Facebook ให้ความสำคัญในการพัฒนาสู่อนาคต 20 ปีข้างหน้า นั่นคือ การสร้างโซเชียลมีเดียยุคใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ และการพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วย AI

SPOTLIGHT ได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังข้อมูลหัวข้อ ‘Future of Facebook’ กับ คุณทอม อลิสัน รองประธานของ Facebook จาก Meta เพื่อรับรู้ภาพรวมและทิศทางของ Facebook

อัปเดตผลิตภัณฑ์จาก Facebook ประจำปี 2024

Facebook ได้พัฒนาประสบการณ์รับชมวิดีโอ ผ่านขั้นตอนในการค้นหาและเชื่อมต่อกับเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้งานสนใจให้ง่ายขึ้น ทั้งในรูปแบบของวิดีโอสั้นอย่าง ‘Reels’ วิดีโอยาว หรือคอนเทนต์แบบไลฟ์สด สอดคล้องกับพฤติกรรมการแชร์แบบส่วนตัว ทั้งการส่งต่อบน Facebook หรือข้ามไปยังแพลตฟอร์มอื่นอย่าง WhatsApp ที่เติบโตขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี 

โดยเนื้อหาวิดีโอยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกว่า 60% ของเวลาที่ผู้คนใช้บน Facebook และ Instagram มาจากการรับชมวิดีโอทั้งสิ้นในปัจจุบัน แม้คอนเทนต์วิดีโอสั้น Reels มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตครั้งนี้ แต่ Facebook ยืนยันว่า แพลตฟอร์มเปิดกว้างเนื้อหาวิดีโอทุกรูปแบบ และพร้อมเป็นหนึ่งในช่องทางดันการเติบโตของครีเอเตอร์

นอกจากนี้ Facebook ยังได้ปรับปรุงประสบการณ์การรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์ม ด้วยการอัปเดตการเล่นวิดีโอแบบเต็มจอ และฟีเจอร์ที่ช่วยเลื่อนไปยังเนื้อหาที่ต้องการสำหรับวิดีโอยาว ซึ่งได้เริ่มให้บริการทั่วโลกแล้ว

สำหรับฝั่งครีเอเตอร์ Facebook มองเห็นถึงการเติบโตของคนกลุ่มนี้ โดยมองว่า ในยุคนี้ การผันตัวเป็นครีเอเตอร์ ที่ได้รับค่าตอบแทนจากแพลตฟอร์มเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น Facebook จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ ‘Professional Mode’ ในเวอร์ชั่นที่ใช้งานง่ายขึ้น หลังจากมียอดผู้ใช้งานวันละ 100 ล้านคน ภายใน 18 เดือน ซึ่งได้ออกแบบขึ้นมาสำหรับผู้ที่ต้องการโพสต์เนื้อหาแบบสาธารณะและต้องการเพิ่มยอดผู้ติดตาม

ไม่เพียงเท่านี้ Facebook ยังได้พัฒนาโมเดลการจ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ โดยพิจารณาจากประสิทธิภาพของคอนเทนต์บน Facebook ของพวกเขา ซึ่งช่วยให้การสร้างรายได้ของครีเอเตอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น อีกทั้งยังขยายโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมสำหรับคอนเทนต์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ

อนาคตของ Facebook

คุณทอม อลิสัน รองประธานของ Facebook จาก Meta กล่าวว่า แพลตฟอร์มได้ปรับปรุงพัฒนาฟีเจอร์ครั้งใหญ่ในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน และโดยเฉพาะครีเอเตอร์ที่ต้องการได้รับค่าตอบแทนจากการทำคอนเทนต์บน Facebook ในหลากหลายรูปแบบ

ทั้งนี้ Facebook เปรียบเสมือนชุมชนออนไลน์ที่เชื่อมต่อทุกคน จากเพียง ครอบครัว เพื่อน และคนรุ้จัก สู่เครือข่ายขนาดใหญ่ที่รวบรวมผู้คนที่มีความชื่นชอบคล้ายกัน ทั้งในฐานะผู้เสพ หรือคนสร้างเนื้อหาก็ตาม พร้อมทั้งมีเครื่องมือมากมายที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถใช้งานเพื่อส่งเสริมเนื้อหาให้มีลูกเล่น และตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยไม่ต้องมีทีมโปรดักชั่นยิ่งใหญ่

พร้อมกันนี้ Facebook ยังเน้นย้ำครีเอเตอร์ให้สร้างเนื้อหาตามชุดมาตรฐานชุมชน ข้อควรระวัง และข้อห้าม จากการใช้เครื่องมือและการให้ข้อเสนอแนะของแพลตฟอร์ม รวมทั้ง การลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในด้านความปลอดภัย ตามเป้าหมายของ Facebook ที่ต้องการให้ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มอย่างฟลอดภัย

ส่วนทิศทางการพัฒนาสู่อนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าของ Facebook เน้นการตอบรับเทรนด์ของการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Facebook จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของ ‘Young Adults’ หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการพัฒนา ‘AI’ ให้มีความสามารถในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์

1. สร้างโซเชียลมีเดียยุคใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่

ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้งานของ Facebook ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ใช้กว่า 1.8 พันล้านคน มีส่วนร่วมกับกลุ่มบน Facebook ในแต่ละเดือน ซึ่งผู้ใช้รุ่นใหม่ (Young Adults) โพสต์ในกลุ่มบน Facebook มากขึ้น โดยมักเป็นการโพสต์แบบไม่ระบุตัวตน ในกลุ่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

ถึงแม้กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ Facebook ยังคงเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน แต่เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคยุคโซเชียล Facebook จึงทำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามหาวิทยาลัย การทำงานที่แรก การพบปะเพื่อนใหม่ หรือการไปท่องเที่ยวสำรวจเมืองใหม่ๆ 

Facebook จึงช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบบนโลกโซเชียลที่ช่วยเปิดโลกกว้างในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งในมุมมองเล็กหรือใหญ่ การหา ‘กลุ่ม’ ที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน การค้นหาสิ่งที่พวกเขาสนใจผ่าน Reels หรือการค้นพบครีเอเตอร์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา

2. พัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย AI

ช่วงปีที่ผ่านมา Facebook ได้พัฒนาโมเดล AI ให้สามารถเรียนรู้เนื้อหาที่มีความสำคัญต่อผู้ใช้งานมากขึ้น ผ่านการทดสอบบน Feed ของ Reels เพื่อมอบการแนะนำเนื้อหาที่ตรงใจผู้ใช้ยิ่งขึ้น ซึ่งเห็นถึงผลลัพธ์ในทิศทางบวก 

นอกจากนี้ Facebook ได้คิดค้นการจัดโครงสร้างโมเดลใหม่ ที่สามารถเรียนรู้จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของ Facebook Reels ในการทดลองใช้งานได้อย่างมาก และอีกประมาณหนึ่งปีข้างหน้า เทคโนโลยีการแนะนำขั้นสูงนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย รวมถึง อีโคซิสเต็มของวิดีโอและคำแนะนำใน Feed ทั้งหมดของ Facebook รวมทั้ง กำลังสร้างหนึ่งในคอลเลกชันสำหรับ Open Model เครื่องมือต่างๆ และทรัพยากรสำหรับ Generative AI ที่ดีที่สุดด้วย ‘Meta Llama

ทั้งนี้ Facebook ได้ลงทุนกับโมเดล AI และดาต้าเซนเตอร์มูลค่ามหาศาล ตามเป้าหมายภายในสิ้นปี 2026 คือ การมีเทคโนโลยีในการแนะนำเนื้อหาแก่ผู้ใช้ที่ดีที่สุดในโลก

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT