ธุรกิจการตลาด

คนไทยกว่า 70% ใช้ AI ยิ่งรายได้สูง ยิ่งใช้ AI เยอะ แม้กังวลความปลอดภัย

26 ก.ค. 67
คนไทยกว่า 70% ใช้ AI ยิ่งรายได้สูง ยิ่งใช้ AI เยอะ แม้กังวลความปลอดภัย
ไฮไลท์ Highlight

ในยุคที่กระแส AI มาแรงสุดๆ และเข้ามาเปลี่ยนชีวิตประจำวันไปอีกขั้น หลายคนหันมาให้ความสำคัญและเปิดใจใช้ AI กันมากขึ้น ล่าสุด BBDO Bangkok เผยผลสำรวจเจาะลึกความคิดเห็นผู้บริโภคไทย และพฤติกรรมการใช้ AI

โดยผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 400 คนในกรุงเทพและหัวเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ พบว่า คนไทย 73.84% ใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิต โดยคนที่มีรายได้น้อยกว่า 25,000 บาท มีแนวโน้มที่จะใช้ประโยชน์จาก AI น้อยกว่าคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป

Gen Y Z ใช้ AI ช่วยในการทำงาน

ทั้งนี้ พฤติกรรมการใช้ AI ในแต่ละ Gen ก็มีเรื่องให้ใช้ AI ที่แตกต่างกันไป

โดย Gen Y และ Gen Z ใช้ AI กับการทำงานมากที่สุด (35% และ 37.5% ตามลำดับ) ในขณะที่ Gen X ใช้ AI กับเรื่องความปลอดภัย (เช่น เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า หรือการตรวจจับอุบัติเหตุในบ้าน) เป็นอันดับหนึ่งที่ 35.2% และนอกจากนี้ Gen X ยังมีการใช้ AI เพื่อสุขภาพและการแพทย์เพิ่มเข้ามาใน 3 อันดับแรกอีกด้วย  

เปิด 5 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกใช้ AI มีดังนี้ :

  1. เพิ่มความสะดวกสบาย (48.23%)
  2. ช่วยประหยัดเวลา (40.60%)
  3. เพิ่มประสิทธิภาพ (37.92%)
  4. เพิ่มความแม่นยำ (22.48%)
  5. ลดความผิดพลาด (18.12%)

ส่วนอีก 26.16% ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก AI พบว่า เหตุผลของผู้ชายและผู้หญิงที่ไม่ใช้ AI นั้นแตกต่างกันไป โดยเพศหญิง จะเน้นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นเหตุผลหลัก 44.23% ในขณะที่เพศชายกังวลเรื่อง AI มีราคาที่สูงเกิน 32% 

TOP 3 แบรนด์ AI

เมื่อพูดถึงแบรนด์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ผลสำรวจพบว่า Google, Chat GPT, และ Samsung ครองสามอันดับแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคไทยนึกถึงตามลำดับ ส่วนอันดับที่สี่และห้าตกเป็นของ Apple และ Microsoft

สำหรับ Google ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักและคุ้นชินเป็นอย่างดี โดยเฉพาสะอัลกอริทึมของ Google’s Search ใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงตามความต้องการและใกล้เคียงมากที่สุด และหลังจากเปิดตัว Gemini AI-Chatbot ของ Google ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก Google ยังได้มีการนำ AI มาใช้ในบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Gmail, Google Workspace, หรือ Google Meet ด้วยเช่นกัน 

ส่วน Chat GPT หรือ AI Chatbot ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากค่าย Open AI และล่าสุดได้สร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัว Chat GPT-4o โมเดลใหม่ล่าสุดที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น พร้อมเข้าใจและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ทั้งข้อความ ภาพ และเสียงแบบเรียลไทม์ รวมทั้ง Chat GPT-4o mini ที่มีขนาดเล็กกว่า ราคาถูกลง แต่ประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นท็อปเลย

ทางด้าน Samsung ในต้นปี 2024 ได้เปิดตัว Galaxy AI ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนพร้อมฟีเจอร์อย่างการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ หรือลบคนออกจากภาพ รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มีการนำ AI มาใช้ เช่น TV Samsung กับเทคโนโลยี AI Upscaling อัพภาพชัดถึง 8K หรือจะเป็น AI ในเครื่องซักผ้ากับเทคโนโลยี AI Wash ตรวจจับและแยกชนิดของผ้า และ AI Energy Saving ที่ช่วยประหยัดพลังงานจากการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้ควบคู่กับสภาพแวดล้อมของที่ตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ

ผู้บริโภคคาดหวังในอุตสาหกรรมไหนใช้ AI บ้าง?

ส่วนอุตสาหกรรมหรือภาคธุรกิจที่ผู้บริโภคคาดหวังให้ใช้ประโยชน์จาก AI มากที่สุด 5 อันดับเป็นดังนี้:

  1. โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ (39.12%)
  2. การแพทย์และการรักษาพยาบาล (37.65%)
  3. เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (36.67%)
  4. รถยนต์ (26.16%)
  5. การเงินและการลงทุน (17.11%)

ทั้งนี้ ด้านการสนับสนุน และข้อกังวลใจต่อ AI ในปัจจุบันและอนาคต ผลสำรวจพบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสอบถาม สนับสนุนการมีอยู่และการพัฒนา AI และ 72.37% มองว่า AI จะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตอย่างมากในอนาคต 5 ปีข้างหน้า

ในส่วนของข้อกังวลใจต่อการใช้ AI คนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง (36.79%) ตามด้วยความกังวลต่อ AI ว่าจะมีราคาสูงเกินไปทำให้เกิดการเข้าไม่ถึงในคนบางกลุ่ม (30.77%) และการที่ AI จะสามารถเข้ามาทดแทนและแย่งงานมนุษย์ (29.10%)

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT