สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เห็นชอบให้ยูเครนใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นับเป็นความพยายามที่ถูกมองว่า ต้องการชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซียที่ในเวลานี้ เข้ายึดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ระบุด้วยว่า ระเบิดเหล่านั้นจะได้รับการส่งมอบให้ยูเครนเร็วๆนี้ และทางการสหรัฐฯคาดว่า มันจะถูกใช้ในดินแดนยูเครนเท่านั้น และทางรัฐบาลก็ยูเครนก็ให้คำมั่นแล้วว่า จะไม่ใช้ในพื้นที่ที่มีประชากรพลุกพล่าน
ขณะเดียวกัน วันนี้ยังมีรายงานด้วยว่า สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน มีความเสี่ยงถูกโจมตี ทำให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯตัดสินใจสั่งปิดสถานทูตชั่วคราว เพราะมีข้อมูลบ่งชี้ว่า อาจจะมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นในวันที่ 20 พ.ย. 67 ดังนั้นสถานทูตจะปิด และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตจะปลอดภัยอยู่ในที่หลบภัย
นอกจากนี้ สถานทูตสหรัฐฯยังแนะนำพลเรือนสหรัฐฯด้วยว่า ให้เตรียมความพร้อมหลบภัยในทันที กรณีที่มีประกาศว่ามีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ สถานทูตฯก็เคยประกาศคำเตือนในลักษณะคล้ายกันนี้ คืออาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นช่วงปีใหม่ และช่วงวันประกาศอิสรภาพของยูเครนในเดือนสิงหาคม
ขณะที่สถานทูตอิตาลีและสถานทูตกรีซประจำยูเครนก็ประกาศปิดชั่วคราวเช่นกัน หลังสหรัฐฯมีคำเตือนดังกล่าวออกมา
ส่วนเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ครบรอบ 1,000 วันของสงครามยูเครน มีรายงานยืนยันว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS โจมตีเป้าหมายในรัสเซียแล้ว หลังได้รับไฟเขียวจากสหรัฐฯให้ใช้งานได้ โดยกระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายในภูมิภาคเบรียนสค์ แต่ขีปนาวุธห้าลูกถูกยิงตกก่อน มีเพียงหนึ่งลูกที่สร้างความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยว่า มีหลักฐานชี้ชัดว่า รัสเซียสามารถสกัดการโจมตีของขีปนาวุธพิสัยไกลเอาไว้ได้เพียง 2 จากทั้งหมด 8 ลูกเท่านั้น