โดนัลด์ ทรัมป์กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมนี้ ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งจะตรงกับประเทศไทยเวลา 23.30 น. ของคืนวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ยาวต่อเนื่องไปจนวันอังคารที่ 21 มกราคม ถือเป็นการโอนอำนาจฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยในปี 2025 นี้ จะมีการเปลี่ยนมือจากโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ไปเป็นฝ่ายบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทั้งประธานาธบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ถูกวางแผนโดยคณะกรรมการร่วมของรัฐสภาว่าด้วยพิธีสาบานตน นำโดยเอมี โคลบูชาร์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ประจำรัฐมินนิโซตา ซึ่งในปีนี้มีหัวข้อของพิธีคือ “ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนของเรา: คำสัญญาตามรัฐธรรมนูญ” สำหรับวันสาบานตนในครั้งนี้ จะมีขั้นตอนแยกย่อยออกเป็น 8 พิธีใหญ่ ๆ ได้แก่
คณะกรรมการพิธีเปิดงานของทรัมป์-แวนซ์ ระบุว่า พิธีเปิดงานจะเริ่มต้นด้วยดนตรีประกอบการแสดงโดยคณะนักร้องประสานเสียงแห่งมหาวิทยาลัยเนแบรสกา-ลินคอล์น และวงดุริยางค์นาวิกโยธินสหรัฐฯ "The President's Own" หลังจากนั้น ผู้นำพิธี เอมี โคลบูชาร์ จะออกคำสั่งให้เริ่มพิธี และคาร์ดินัลทิโมธี โดแลน อาร์ชบิชอปแห่งนิวยอร์ก และบาทหลวงแฟรงคลิน เกรแฮม จะกล่าวคำอธิษฐาน ขณะที่คริสโตเฟอร์ มัคคิโอ นักร้องโอเปร่า จะร้องเพลง "Oh, America!"
ผู้พิพากษาศาลฎีกาเบรตต์ คาเวอนอห์จะเป็นผู้ให้คำสาบานต่อเจดี แวนซ์ในฐานะรองประธานาธิบดี แคร์รี อันเดอร์วู้ด นักร้องเพลงคันทรี ร่วมด้วยคณะนักร้องกองทัพและชมรมร้องเพลงของโรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา จะแสดงเพลง "America the Beautiful"
หลังจากการดำเนินการเสร็จสิ้นประธานศาลฎีกา จอห์น โรเบิร์ตส์เป็นผู้ให้คำสาบานต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชมรมร้องเพลงของวิทยาลัยทหารเรือจะกลับมาร้องเพลง "The Battle Hymn of the Republic" และจากนั้นทรัมป์จะกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน และพิธีจะสิ้นสุดลงด้วยการให้พรของตัวแทนทางศาสนาคนสำคัญ
โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งต้องกล่าวคำปฏิญาณตนที่ระบุว่า
"ข้าพเจ้าขอสาบานว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอย่างซื่อสัตย์
และจะทำตามความสามารถของข้าพเจ้า
ในการรักษา ปกป้อง และปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา"
แม้ว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีจะดึงดูดบุคคลมีอิทธิพลมาโดยตลอด แต่รายชื่อผู้เข้าร่วมงานในปีนี้กลับดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษ อดีตประธานาธิบดี 3 คน ได้แก่ บารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู บุช และบิล คลินตัน จะเข้าร่วมงานด้วย รวมถึงผู้นำของรัฐบาลที่พ้นจากตำแหน่ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส
รายชื่อแขกของทรัมป์ยังรวมถึงผู้นำฝ่ายขวาจัดชื่อดังจากทั่วโลก คาดว่าประธานาธิบดีฆาเวียร์ มิเลอิแห่งอาร์เจนตินา นายกรัฐมนตรีจิออร์จา เมโลนีแห่งอิตาลี เอริก เซมมูร์ นักการเมืองฝรั่งเศส และไนเจล ฟาราจ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งจะเป็นแขกของทรัมป์ เนื่องจากจะช่วยผลักดันให้ทรัมป์กลับมามีอำนาจอีกครั้ง แขกนักธุรกิจที่คาดว่าจะเข้าร่วมได้แก่ มหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla, SpaceX และธุรกิจยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมา เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง Amazon ทิม คุก ซีอีโอของ Apple และมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook ล่าสุด มีข่าวว่าโจว โซ่ว จือ ซีอีโอ Tiktok จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนด้วย ซึ่ง Tiktok เพิ่งจะถูกแบนในสหรัฐฯ เพียง 1 วันก่อนพิธีสาบานตน