ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกเดือด ทรัมป์ส่งทหาร1,500นาย ไล่ผู้อพยพกลับ 5พันคน

เพียง 48 ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ รับตำแหน่ง เขาก็เดินหน้าลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร เร่งจัดการผู้อพยพผิดกฎหมายในประเทศราว 11 ล้านคน ตามที่เคยหาเสียงไว้อย่างดุดันมาตลอด ล่าสุด เขาได้ออกคำสั่งส่งทหารเพิ่มอีก 1,500 นาย ไปประจำการทางตอนใต้ของสหรัฐฯ แม้จะยังมีคำสั่งไม่ชัดเจนว่าต้องไปประจำการจุดไหนบ้าง แต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพรมแดนติดกับประเทศเม็กซิโก ซึ่งล้วนเป็นช่องทางที่ผู้อพยพใช้ลักลอบเข้าสหรัฐฯ และมีศูนย์พักพิงผู้อพยพหลายสิบแห่งในพื้นที่ด้วย 

คอนเทนต์แนะนำ

ผู้อพยพในสหรัฐฯ ปั่นป่วน! ทรัมป์สั่งกวาดล้างครั้งใหญ่ คุมเข้มชายแดน

สรุป 10 ประเด็น หลังสุนทรพจน์ “โดนัลด์ ทรัมป์” พาอเมริกาสู่ยุคทอง

ทรัมป์ 2.0 ยังไม่ขึ้นภาษีนำเข้าทันทีแต่แคนาดา เม็กซิโก จีน โดนก่อน

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โรเบิร์ต ซาลเซส เปิดเผยว่า เขาได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมเริ่มเพิ่มกำลังทหารที่ชายแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ ด้วยกำลังภาคพื้นดิน 1,500 นาย รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับลูกเรือที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงนักวิเคราะห์ข่าวกรอง เพื่อสนับสนุนความพยายาตรวจจับและติดตามผู้อพยพผิดกฎหมายที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการปฏิบัติการแรกของนายทหารจะเริ่มต้นภายใน 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอีกรายระบุว่า กองกำลังชุดแรกจำนวน 1,500 นายประกอบด้วยนาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันและกองพลนาวิกโยธินที่ 1 ในซานดิเอโก และเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพอีกประมาณ 1,000 นายจากกองทัพต่าง ๆ ซึ่งคาดว่านาวิกโยธินและทหารทั้งหมดจะเดินทางมาถึงชายแดนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินทั้งหมด โดยทำหน้าที่เป็นทั้งกองกำลังตอบสนองอย่างรวดเร็วและตรึงกำลังเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย

ทั้งนี้ ทรัพยากรของรัฐบาลกลางตามแนวชายแดนตอนใต้ของสหรัฐฯ ในชายแดนเม็กซิโกมีอยู่แล้วประมาณ 2,200 นาย ซึ่งไม่เพียงพอมานานหลายปี เนื่อจากการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิระบุว่า ในช่วงเร็วๆนี้ จำนวนผู้อพยพที่พยายามข้ามพรมแดนมายังสหรัฐฯถือว่าลดลง โดยมีผู้อพยพข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายประมาณ 1,100 - 1,300 รายต่อวัน 

เที่ยวบินอำลา: ส่งตัว “ผู้อพยพผิดกฎหมาย” ชุดแรกกลับประเทศ

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังเปิดเผยอีกว่า คำสั่งพิเศษดังกล่าว ยังรวมถึงการส่งทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อเร่งดำเนินการพาผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศ โดยระบุว่า มีการส่งเครื่องบินทั้งหมด 4 ลำ ได้แก่ เครื่องบิน C-17 สองลำและเครื่องบิน C-130 สองลำไปยัง พื้นที่ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และเอลพาโซ รัฐเท็กซัส โดยเครื่องบินทั้งหมดจะใช้ส่งตัวผู้อพยพกว่า 5,000 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกรมศุลกากรและป้องกันชายแดนในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ กระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ จะบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเที่ยวบินดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศจะขออนุมัติทางการทูตที่จำเป็น และแจ้งต่อประเทศต้นทางที่สหรัฐฯ จะพาพวกเขากลับไป

จริง-เท็จแค่ไหน: ทรัมป์ตั้งใจจะส่งทหารเพิ่ม 10,000 นาย

บันทึกภายในของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนลงวันที่ 21 มกราคม ระบุว่ารัฐบาลทรัมป์มีแผนจะส่งทหารราว 10,000 นาย ไปช่วยภารกิจของหน่วยงานที่ชายแดนทางตอนใต้ ตามเอกสารดังกล่าว ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ยื่นคำขอให้กระทรวงกลาโหมเพิ่มทรัพยากรและบุคลากรเพื่อช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน

CNN รายงานว่ารัฐบาลทรัมป์ได้ขอให้กองทัพเตรียมพร้อมที่จะส่งทหารประจำการ 10,000 นายทันที ส่งผลให้ต้องเร่งระดมกำลังพลเข้าประจำการ ณ ที่ทำการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (เพนตากอน) อย่างไรก็ตาม จ้าหน้าที่กองทัพคัดค้านเรื่องนี้เพราะเชื่อว่าการส่งทหารจำนวนมากไปยังชายแดนในคราวเดียว อาจทำให้พวกเขาต้องละทิ้งภารกิจอื่นๆ ทั่วโลกและต้องใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง

แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกลาโหม ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการเปิดเผยตัวเลข 10,000 ราย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะกล่าวว่า 10,000 รายนั้นอาจเป็นตัวเลขที่แท้จริง แต่ก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัด เพราะยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ เนื่องจากขณะนี้ยังกำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ