สำนักข่าว The Irrawaddy ของเมียนมา รายงานว่า กระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ออกคำสั่งให้บริษัทจัดหางานในประเทศเลี่ยงการจ้างงานชาวเมียนมา และมองหาแรงงานจากประเทศอื่นมาทดแทน เนื่องจากเมียนมากำลังเผชิญกับปัญหาการเมืองภายในประเทศและความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อย จึงอาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจของสิงคโปร์ได้ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
กระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ระบุว่า เมียนมาอยู่ในภาวะฉุกเฉิน หลายเมืองอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและมีทีท่าว่าจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การเดินทางสัญจรในเมียนมาถูกจำกัด
ประกาศเตือนของสิงคโปร์มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเมียนมาสั่งห้ามพลเมืองในวัยเกณฑ์ทหารเดินทางออกนอกประเทศ ผู้หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง จะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี คำสั่งห้ามนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว (ปี 2024) รัฐบาลเมียนมาได้ใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารซึ่งไม่ได้การประกาศใช้มานานแล้ว โดยกำหนดให้ผู้ชายอายุ 18-35 ปี และผู้หญิงอายุ 18-27 ปี เข้ารับราชการทหารอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการอพยพออกจากประเทศเป็นจำนวนมาก
ผู้จัดการของสำนักงานจัดหางานต่างประเทศในเมียนมากล่าวว่า การบังคับให้คนอายุต่ำกว่า 35 ปีเข้ารับราชการทหาร ส่งผลกระทบแรงงานจำนวนมากที่ต้องการทำงานในสิงคโปร์ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจเมียนมา โดยเฉพาะหน่วยงานและบริษัทที่ดำเนินกิจการร่วมสิงคโปร์ และท้ายที่สุดก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศด้วย ขณะที่ผู้อพยพบางส่วนที่ได้งานทำในสิงคโปร์แล้ว กลับไม่ไปเริ่มงานได้ทัน เนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทาง
แรงงานข้ามชาติจากเมียนมาส่วนใหญ่มักทำงานก่อสร้าง แม่บ้าน ดูแลผู้สูงอายุ ทำความสะอาด และร้านอาหาร ในสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศไม่มีข้อตกลงด้านแรงงานทวิภาคีระหว่างกัน นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของแรงงานคุณภาพของเมียนมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร ช่างไอที และแพทย์ โดยแรงงานเมียนมาคนหนึ่งที่ทำงานในสิงคโปร์เปิดเผยว่า เขาเสียใจแทนคนหนุ่มสาวที่ต้องการพัฒนาตัวเอง เพราะตอนนี้พวกเขามีโอกาสน้อยลง
สถานทูตเมียนมาในสิงคโปร์เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สิงคโปร์มีแรงงานอพยพจากเมียนมามากกว่า 200,000 คน และมีอย่างน้อย 278 คนได้กลายมาเป็นพลเมืองสิงคโปร์แล้ว
ที่มา The Irrawaddy