กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยว่า พวกเขาจะส่งตัวคนที่มาทำงานกับแก๊งสแกมเมอร์จำนวน 8,000 คนคืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังหม่อง ชิต ตู ผู้นำกลุ่ม BGF ซึ่งดูแลพื้นที่ที่แก๊งสแกมเมอร์เข้ามาตั้งบริษัทบริเวณชายแดนเมืองเมียวดี ติดพรมแดนไทย ออกมาประกาศจะปราบปรามการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ หลังได้รับแรงกดดันจากนานาประเทศ
โฆษกของ BGF เปิดเผยกับสำนักข่าว RFA ว่า คาดว่าจะส่งตัวแรงงานราว 8,000 คน หรืออาจจะมากกว่านี้ ผ่านทางประเทศไทย หรือส่งตัวกลับไปในพื้นที่อื่นๆของเมียนมา ซึ่งมีการทำบัญชีรายชื่อเอาไว้แล้ว โดยหลายคนที่เข้ามาด้วยวีซ่าจากไทย ก็จะส่งกลับไปให้ประเทศไทย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่ม BGF ได้ส่งตัวชาวต่างชาติ 61 คนให้แก่ประเทศไทย หนึ่งวันหลังไทยตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่พื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์ในเมียนมา และยังมีรายงานด้วยว่า พันธมิตรทหารเมียนมาก็หยุดส่งน้ำมันให้แก่พื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน
ด้านชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า ยังมีชาวต่างชาติอีก 261 คน จาก 20 ประเทศ รวมทั้งจีน เอธิโอเปีย มาเลเซีย เนปาล เคนยาและฟิลิปปินส์ ถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ไทยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แก๊งหลอกลวงออนไลน์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในเมียนมา กัมพูชา และลาส หลังการระบาดของโควิด 19 ทำให้ธุรกิจกาสิโนของประเทศแถบนั้นได้รับผลกระทบ โดยนักวิจัยเชื่อว่า มีเหยื่อทั่วโลกที่สูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากการหลอกลวงดังกล่าว ซึ่งจะใช้วิธีติดต่อเข้าไปตีสนิทและหลอกให้เสียเงินด้วยวิธีต่างๆ
สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า อาจจะหาทางออกหมายจับผู้นำกลุ่ม BGF สามคน ซึ่งรวมถึงหม่อง ชิต ตู โดยกล่าวหาว่า กลุ่มดังกล่าวพัวพันกับการหลอกลวงชาวอินเดียเข้ามาบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
รายงานระบุว่า หม่อง ชิต ตู ซึ่งเป็นผู้นำ BGF เป็นคนดูแลศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองชเวโก๊กโก่ ร่วมกับบริษัท Yatai International ซึ่งมีฉี จี้เจียง อาชญากรชาวจีนที่ตอนนี้ติดคุกอยู่ในประเทศไทย
หลังทราบข่าวดังกล่าว หม่อง ชิต ตู ก็ออกมาประท้วงคำขู่ของรัฐบาลไทยที่จะออกหมายจับเขา กรณีแก๊งสแกมเมอร์ที่มาตั้งฐานอยู่ภายในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ BGF ครอบครองอยู่ โดยหม่อง ชิต ตูเปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีเมียนมาว่า “ผมอยากถาม ผมไปทำอะไรให้ประเทศไทย ถึงต้องมาตัดสิน ด้วยการออกหมายจับแบบนั้น? ผมไปทำอะไรที่เป็นกบฏต่อประเทศไทยเหรอ?”
หม่อง ชิต ตูยังบอกอีกด้วยว่า เขาทำเยอะมากเพื่อปราบปรามการค้ามนุษย์ ช่วยเหลือและส่งเหยื่อคืนมากมาย แต่ความพยายามของเขาไม่เคยถูกนำไปออกข่าวแค่นั้นเอง นอกจากนี้อเขายังแสดงความเป็นกังวล และบอกว่า แผนการออกหมายจับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และเขารู้สึกแย่กับการดำเนินการตามที่ไทยวางแผนไว้จริงๆ