CNN รายงานว่าสหรัฐฯ และรัสเซียได้ส่งคณะผู้แทนเพื่อเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนทำเนียบขาวประจำตะวันออกกลาง ได้เดินทางไปยังซาอุดีอาระเบียเพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า จะทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในการเจรจาครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ ทรัมป์ยังออกมายืนยันว่า สตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนทำเนียบขาวประจำตะวันออกกลาง ได้หารือกับผู้นำรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงของรัฐบาลยูเครนเปิดเผยกับ BBC ว่า รัฐบาลยูเครนไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเพื่อยุติสงครามในยูเครนแต่อย่างใด แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเคยให้คำมั่นหนักแน่นว่ายูเครนจะมีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้แน่นอน แต่สำนักข่าวต่างประเทศคาดว่าอาจเป็นการเจรจาแบบ “สองทาง” เนื่องจากมีคีธ เคลล็อกก์ ผู้แทนรัสเซีย-ยูเครนของรัฐบาลทรัมป์ ประจำอยู่ที่กรุงเคียฟของยูเครนในขณะนี้ และก่อนหน้านี้ เขาได้ประกาศว่ายุโรปจะไม่มีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ
ความเคลื่อนไหวของสองมหาอำนาจทำให้เกิดความวิตกกังวลในฝั่งของยูเครนและชาติยุโรป เนื่องจากเกรงว่าทรัมป์และปูตินจะเจรจาตกลงอย่างไม่เป็นธรรม ผู้นำยุโรปจึงจัดประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ด้านเซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แถลงว่า การประชุมฉุกเฉินนี้เกิดขึ้นในรอบประวัติศาสตร์เพื่อความมั่นคงของภูมิภาค และยุโรปจะต้องก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในเวทีนาโตมากขึ้น
นอกจากนี้ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ยังเสนอจะส่งทหารของสหราชอาณาจักรเข้าไปประจำการในยูเครนด้วย โดยระบุว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ตัดสินใจส่งกำลังพลสหราชอาณาจักรทั้งหญิงและชายเข้าไปเสี่ยงอันตราย แต่การปกป้องสันติภาพในยูเครนเป็นสิ่งจำเป็น หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และกองทัพรัสเซียเข้ามารุกรานยูเครนในอนาคต
สงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดความปั่นป่วนมากขึ้น หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (12 ก.พ. 68) ประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสายตรงหาผู้นำรัสเซีย และพูดคุยกันเกือบ 90 นาที หลังจากนั้น ทรัมป์ก็แถลงว่าเป็นการพูดคุยที่ยาวนานและสร้างสรรค์ พร้อมเผยว่า การเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะเริ่มต้นขึ้นทันที ทำให้ผู้นำยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ เซเลนสกี ออกมาเตือนว่าเขาจะไม่ยอมรับการเจรจาใด ๆ ที่ไม่มีรัฐบาลยูเครนร่วมด้วย ทั้งนี้ การต่อสายตรงของทรัมป์ไปหาปูติน นับเป็นการเปิดช่องทางให้ทั้งสองประเทศติดต่อกันอีกครั้ง หลังหยุดชะงักไป 3 ปีกว่า ตั้งแต่สมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ