ทรัมป์เปลี่ยนขั้ว โจมตียูเครนเริ่มสงคราม หนุนรัสเซียห้ามนาโตช่วยยูเครน
สหรัฐฯ และรัสเซียส่งผู้แทนระดับสูงเปิดฉากเจรจายุติสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ซาอุดิอาระเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไร้เงาของยูเครนเข้าร่วมการประชุมด้วย หลังจากนั้น ทรัมป์ก็ได้แถลงว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี แต่กลับสร้างความตกใจให้กับสื่อมวลชนด้วยข้อพิพาทรุนแรงต่อยูเครน โดยกล่าวว่ายูเครนเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน ซึ่งไม่ควรเริ่มเลย แต่แท้จริงแล้วทั่วโลกรับรู้กันว่ากองทัพรัสเซียบุกรัสเซียแบบสายฟ้าแลบเมื่อ 3 ปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการเจรจาดังกล่าว มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า เขามั่นใจว่ารัสเซียเต็มใจที่จะยุติสงครามกับยูเครนอย่างจริงจัง พร้อมเผยว่าสหรัฐฯ จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียด้วย ไม่ว่าจะเป็นคืนตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศของกันและกัน ในส่วนของการคว่ำบาตรรัสเซีย จะต้องมีการผ่อนปรนจากทุกฝ่ายเพื่อยุติความขัดแย้ง ขณะที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวหลังการเจรจาว่า รัสเซียยอมรับไม่ได้หากนาโตจะส่งกองกำลังทหารมาประจำในยูเครน และหากยูเครนเข้าร่วมนาโต ก็จะเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อรัสเซีย
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกมาตอบโต้ว่ายูเครนจะไม่ยอมแพ้ต่อคำขาดของรัสเซีย และย้ำคำเดิมว่า จะไม่ลงนามในข้อตกลงใด ๆ ที่ไม่มียูเครนอยู่ในที่ประชุมด้วย เขาระบุว่ายูเครนต้องการให้ทุกอย่างยุติธรรมและไม่มีใครมาตัดสินใจอะไรลับหลัง การที่ยูเครนไม่ได้รับเชิญไปร่วมการเจรจากับรัสเซียและสหรัฐฯ ที่ซาอุดีอาระเบีย ก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับยูเครน เช่นเดียวกับทั่วโลก
ทรัมป์เปลี่ยนจุดยืนสหรัฐฯ เลิกเป็นพี่ใหญ่ให้ยูเครน?
ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนยูเครนด้วยการส่งกองกำลังทหาร ทรัพยากรทางการเงินและยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาล จนเรียกได้ว่ามีบทบาทเป็นพี่ใหญ่คุ้มครองยูเครนจากรัสเซีย แต่ท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลของทรัมป์ในสมัยนี้ กำลังจะเปลี่ยนจุดยืนแบบสลับขั้ว
นอกจากการโจมตีที่ผิดพลาดว่ายูเครนเป็นฝ่ายเริ่มสงครามแล้ว ทรัมป์ยังกล่าวถึงการเมืองภายในยูเครนด้วย โดยโจมตีว่ากฎอัยการศึกที่อ้างถึงภาวะสงคราม ทำให้ยูเครนไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สักที ซึ่งคะแนนความนิยมของเซเลนสกีอยู่ที่ 4% เท่านั้น ทรัมป์ระบุว่า ถ้ายูเครนอยากเข้าร่วมโ๖๊ะเจรจา ประชาชนในประเทศก็ควรได้มีสิทธิ์มีเสียงผ่านการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งครั้งล่าสุดของยูเครนมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่เซเลนสกีกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะไปลงคะแนนเสียงในช่วงสงคราม ซึ่งเป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐธรรมนูญของประเทศ CNN วิพากษ์วิจารณ์ว่าการยืนกรานของทรัมป์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิ์ออกเสียงในระบอบประชาธิปไตยนั้นช่างน่าขัน เมื่อพิจารณาจากการที่เขาปฏิเสธที่จะรับฟังคำตัดสินของชาวอเมริกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ที่เขาแพ้ และยิ่งน่าอับอายมากขึ้นไปอีกเมื่อปูตินอยู่ในอำนาจมาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษด้วยการจัดการเลือกตั้งหลอกลวงและปราบปรามภายในประเทศอย่างรุนแรง
