เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แถลงหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำ 18 ชาติ รวมถึงประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โดยเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปรวมกลุ่ม ‘พันธมิตรผู้สมัครใจ' ที่จะรับประกันสันติภาพในยูเครน พร้อมประกาศข้อตกลง 4 ประการ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า วันนี้เรากำลังอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต เราไม่สามารถยอมรับข้อตกลงที่อ่อนแอ ซึ่งรัสเซียจะสามารถฝ่าฝืนมันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น ข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้น ต้องอาศัยการร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งในชาติยุโรป เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่ายังคงต้องการความร่วมมือจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ด้วย เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ยังประกาศสนับสนุนทางการเงินจากสหราชอาณาจักรให้แก่ยูเครน อนุมัติเงินกู้อีก 1.6 พันล้านปอนด์ จากเดิมที่ให้กู้ไปแล้ว 2.2 พันล้านปอนด์ เพื่อซื้อขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศมากกว่า 5,000 ลูก และเป็นการให้ความช่วยเหลือทางด้านทหารแก่ยูเครน โดยเงินจำนวนนี้ นำมาจากผลกำไรจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้
ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด ได้แก่ ฝรั่งเศส โปแลนด์ สวีเดน ตุรกี นอร์เวย์ สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย ฟินแลนด์ อิตาลี สเปน และแคนาดา อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้างที่ตกลงที่จะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรด้วยความเต็มใจนี้ แต่ประเทศที่ให้คำมั่นจะเร่งดำเนินการวางแผนอย่างเร่งด่วน
ด้านโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า ยูเครนรู้สึกถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากยุโรปและการประชุมสุดยอดครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของยุโรปในระดับสูงมากซึ่งไม่เคยพบเห็นมานาน ทั้งนี้ ผู้นำชาติยุโรปกำลังทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา เพื่อสันติภาพที่แท้จริง
หลังจากการประชุมสุดยอด เซเลนสกีเดินทางไปซานดริงแฮม ในสหราชอาณาจักรซึ่งเขาได้เข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ต่อมาเขาได้พูดคุยกับนักข่าวในการแถลงข่าวครั้งล่าสุด ระบุว่ายูเครนยังพร้อมที่จะลงนามข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐอเมริกา
การประชุมสุดยอดผู้นำชาติยุโรป เกิดขึ้นหลังจากการเจรจาสันติภาพอันดุเดือดระหว่างผู้นำยูเครน และประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ก่อนหน้านี้จะถูกกำหนดไว้ว่าจะจบลงด้วยดี เนื่องจากผู้นำยูเครนพร้อมเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่ธาตุหายากในประเทศ แลกกับการคุ้มครองความมั่นคงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่แล้วกลับมีฉากวิวาทะเดือดระหว่างผู้นำประเทศที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นความวุ่นวายทางการทูตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากทรัมป์ฉะเซเลนสกีเดือด และกล่าวหาว่ายูเครนและยุโรปกำลังพนันกับสงครามโลกครั้งที่สาม