“ไกด์ท้องถิ่นรู้ดีว่าทหารเกาหลีเหนือถูกส่งไปสู้รบในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามปกปิดเรื่องนี้” นี่คือคำบอกเล่าของปิแอร์-เอมีล บิออท บล็อกเกอร์ชาวฝรั่งเศสวัย 30 ปี ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ทัวร์ “เขตเศรษฐกิจพิเศษราซอน” เมืองท่องเที่ยวเกาหลีเหนือ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในรอบ 5 ปี
บิออทกล่าวว่า ทริปเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 20-25 มกราคมที่ผ่านมานั้น นอกจากจะทำให้เขาได้สัมผัสวัฒนธรรมเกาลีเหนือย่างใกล้ชิดแล้ว ยังทำให้เห็นว่าประเทศอันลึกลับแห่งนี้ มีความแน่นแฟ้นกับรัสเซียมากแค่ไหน และอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเบียร์ท้องถิ่นมีรสชาติดีอย่างน่าประหลาด
เมื่อเดือนที่แล้ว มีข่าวลือหนาหูว่าเกาหลีเหนือจะกลับมาเปิดทัวร์เมืองราซอนอีกครั้ง หลังจากปิดให้บริการไปตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เมื่อต้นปี 2020 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีโอกาสได้เที่ยวเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้เต็ม ๆ 5 วัน 4 คืน โดยเดินทางจากชายแดนประเทศจีน เกาหลีเหนือประกาศชัดเจนว่าจะให้การต้อนรับผู้คนทั่วโลก ยกเว้นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้และชาวอเมริกัน หลังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับมหาอำนาจและพันธมิตรตึงเครียดขึ้นในช่วงนี้
ต้อนรับอย่างเฟรนลี่กว่าที่คิด
บิออทตเคยอยากไปเยี่ยมชมรัฐที่สันโดษแห่งนี้มาโดยตลอด และรอเวลาที่จะได้เยือนแดนโสมแดง จนวันนี้เขาและเพื่อนชาวยุโรปในกรุ๊ปทัวร์เดียวกันอีก 12 คน ก็ได้เดินทางมาถึงเมืองราซอน ผ่านทางชายแดนเมืองหยานจี๋ มณฑลจี๋หลินของจีน เขาเล่าว่ากระบวนการตรวจสอบเข้าประเทศไม่ได้มีความยุ่งยากขนาดนั้น แต่ยังมีการตรวจร่างกายหาเชื้อโควิด-19 อยู่
หนุ่มฝรั่งเศสคนนี้ได้แชร์ประสบการณ์กับ Radio Free Asia ว่า “เกาหลีเหนือให้การต้อนรับดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อาจเช็กว่ามีไข้หรือสุ่มเสี่ยงเป็นโควิดหรือไม่ และพวกเราต้องจ่ายเงินเพื่อฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระที่เราพกมาด้วย”
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะมีไกด์ท้องถิ่นติดตามไปด้วยอย่างเข้มงวดตลอดการเดินทาง และไม่อนุญาตให้เดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวข้างนอกโรงแรม แม้ในเวลากลางคืนก็ตาม พวกเขาจะถูกประกบด้วยไกด์ท้องถิ่นชาวเกาหลีเหนือ 2 คนและไกด์ฝึกหัดอีก 2 คน หนึ่งในนี้เป็นหญิงสาวชาวเกาหลีเหนือที่อายุน้อยกว่า 20 ปี เธอเล่าว่าไม่เคยติดต่อกับชาวต่างชาติมาก่อน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นชาวตะวันตก
ทริปนี้นักท่องเที่ยวได้รับทราบล่วงหน้าว่าจะมีการเยี่ยมชมโรงเรียนประถม ฟาร์มกวาง โรงเบียร์ และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เช่น การแสดงเทควันโดและกิจกรรมทำกิมจิ แต่ในแผนการเดินทางไม่ได้เป็นไปตามที่แจ้งไว้ และมีความไม่แน่นอนสูง ตอนกลางคืนอาจมีการเสนอไอเดียว่านักท่องเที่ยวจะได้ไปสถานที่ใด แต่เช้าวันถัดไปอาจไม่ได้ไปตามที่แจ้ง
เมืองเศรษฐกิจพิเศษเกาหลีเหนือ ไฮเทคแค่ไหน?
จุดเยี่ยมชมทั้งหมดจะอยู่ในเมืองราซอน ซึ่งเกาหลีเหนือกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นับว่าเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลได้ทดลองใช้ระบบทุนนิยมในบางด้าน เช่น ระบบธนาคารอิเล็กทรอนิกส์และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งบิออทมองว่าทั้งสองระบบนี้ทำงานได้เป็นอย่างดีในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สัญญาณ Wi-Fi ในโรงแรมคาอนข้างอ่อน ดังนั้นบริเวณที่สัญญาณจะเสถียรได้ก็มีเพียงบริเวณใกล้ชายแดนจีนหรือรัสเซียเท่านั้น ซึ่งบิออทสามารถโพสต์อัปเดตเกี่ยวกับการเดินทางของเขาบนโซเชียลมีเดียได้
นักท่องเที่ยวจะได้รับบัตรเดบิตเมื่อเดินทางมาถึง แต่มีธุรกิจเพียงไม่กี่แห่งที่ยินยอมที่จะรับการชำระเงินด้วยวิธีนี้ บิออทเล่าว่า พวกเขาได้รับอนุญาตให้ซื้อบัตรเครดิตที่ใช้งานได้ แต่ไม่มีชื่อบนบัตรได้ ซึ่งเขาซื้อบัตรมาในราคาเต็ม 25 หยวน หรือราว 120 บาท แม้บางร้านค้าจะรับเงินหยวน แต่พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะชอบรับเงินสดมากกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถจ่ายค่าแท็กซี่ด้วยบัตร แต่สำหรับทริปนี้ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว จึงไม่ได้ลองใช้จ่ายค่าเดินทาง
โชว์ความแนบแน่น เปียงยาง-มอสโก
หนึ่งในข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือโปรแกรมทัวร์ได้สอดแทรกสถานที่และกิจกรรมที่โชว์ความแน่นแฟ้นระหว่างรัฐบาลรัสเซียและเกาหลีเหนือ เนื่องจากทัวร์พาเยี่ยมชม “ศาลามิตรภาพรัสเซีย-เกาหลีเหนือ” ซึ่งตั้งอยู่บนชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1986 เพื่อรำลึกถึงการเยือนสหภาพโซเวียตของคิม อิล ซุง ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือในขณะนั้น ทั้งนี้ รัฐบาลมอสโกให้ความช่วยเหลือในการพยุงเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ จนกระทั่งสหภาพโซเวียตล่มสลายในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือล่มสลาย
บิออทเล่าว่าไกด์นำเที่ยวมักจะหลีกเลี่ยงการตอบคำถามเกี่ยวกับการเมือง แต่ไกด์บางคนก็บอกว่าพวกเขารู้ว่ากองกำลังทหารเกาหลีเหนือถูกส่งไปสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา กองทัพเกาหลีเหนือส่งทหารราว 12,000 นาย ไปยังรัสเซีย เพื่อประจำการในพื้นที่ชายแดน แม้ว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศ ยังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และสื่อของรัฐเกาหลีเหนือก็ยังคงนิ่งเฉย แต่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้และสหรัฐฯ รวมถึงยูเครนได้รายงานการเสียชีวิตของทหารเกาหลีเหนือหลายพันนาย
เบียร์ดี มีเสิร์ฟทุกมื้อ
เมื่อถูกถามถึงอาหารที่คณะทัวร์ได้รับเสิร์ฟ บิออทก็ชื่นชมเบียร์ที่ผลิตในประเทศ เขากล่าวว่า เบียร์ท้องถิ่นนั้นดีอย่างน่าประหลาดใจจริง ๆ ในทุกๆ มื้ออาหาร ทัวร์แทบจะไม่เสิร์ฟน้ำเปล่าเลย แต่จะมีการเสิร์ฟเบียร์แทน นักท่องเที่ยวแต่ละคนน่าจะดื่มเบียร์อย่างน้อยวันละ 5 แก้ว
นอกจากนี้ ยังมีการพาเยี่ยมชมรูปปั้นของบรรพบุรุษผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งแต่คิม อิลซุง หรือปู่ของคิม จองอึน รวมถึงคิม จองอิล บิดาของเขาด้วย นักท่องเที่ยวถูกบังคับให้ซื้อดอกไม้มาวางหน้ารูปปั้นเพื่อแสดงความเคารพ โดยทุกคนต้องโค้งคำนับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก
ตลอดการเดินทาง บิออทสัมผัสได้ถึงความเคารพนับถืออย่างสูงที่ประชาชนเกาหลีเหนือมีต่อผู้นำของพวกเขา ไกด์มักจะใช้สำนวนที่ว่า “ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเราเป็นผู้ตัดสินใจ...” และมักจะพูดถึงความสำเร็จของคิม จองอึนอยู่เสมอ