ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์คุยกับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยทรัมป์กล่าวว่าเป็นการสนทนาที่ดีมาก ขณะที่เซเลนสกีกล่าวถึงการสนทนาทางโทรศัพท์อันยาวนานว่าเป็นการสนทนาที่เป็นบวก มีเนื้อหาสาระมาก และตรงไปตรงมา พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่ายูเครนจะสามารถบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนได้ในปีนี้ร่วมกับอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ และภายใต้การนำของอเมริกา
สองผู้นำยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเป็นผู้ร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริฌเฌีย ที่รัสเซียถือครองอยู่ โดยทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ สามารถให้ความช่วยเหลือในการดำเนินการโรงไฟฟ้าด้วยความเชี่ยวชาญ และการที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าเหล่านั้นจะเป็นการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวและเป็นการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนได้อย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังให้คำมั่นที่จะช่วยยูเครนป้องกันภัยทางอากาศจากยุโรปเพิ่มเติม และจะช่วยค้นหาเด็ก ๆ ชาวยูเครนหลายพันคนที่ถูกลักพาตัวไปในช่วงสงครามด้วย
การสนทนาดังกล่าว เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ทรัมป์ได้ยกหูหารือทางโทรศัพท์กับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ภายหลังการหารือ รัฐบาลเครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่ายินดีที่จะรับข้อเสนอยุติโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนชั่วคราว เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งฝั่งของรัฐบาลยูเครนเองก็เห็นดีกับข้อตกลงสงบศึกระยะสั้นนี้ แม้ว่าดีลตกลงหยุดโจมตีจะไม่บรรลุผลตามความตั้งใจแรกของทรัมป์และเซเลนสกี
ในแถลงการณ์ของมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ผู้นำทั้งสองตกลงกันเรื่องการหยุดยิงบางส่วนในพื้นที่ผลิตพลังงาน CNN สรุปผลการพูดคุย และนี่คือ 5 ประเด็นหลักที่ผู้นำทั้งสองหารือกัน
ในบรรยากาศการสนทนาที่ผู้นำทั้งสามประเทศ พูดคุยทางโทรศัทพ์กันอย่างยาวนาน และต่างออกมาเผยว่าการเจรจาล้วนเป็นไปในทางบวก แม้ข้อตกลงหยุดยิงยังไม่บรรลุ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสงบศึก อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในพื้นที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนกลับสวนทางกัน ล่าสุด รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของยูเครน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายจากการโจมตีในเขตแคว้นดนีปรอแปตร็อวสก์ในยูเครน
รัสเซียยังได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งได้แก่ ภูมิภาคคูเปียนสค์และซาโปริซเซีย นอกจากนี้ หน่วยงานฉุกเฉินแห่งรัฐของยูเครน รายงานว่าโดรนของรัสเซีย 2 ลำโจมตีสถานพยาบาลในครัสโนปิลเลียก่อน จากนั้นจึงโจมตีอีก 5 ครั้งระหว่างการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล