ตัวประกันไทยเหลืออีก 1 กต.ไทยเรียกร้องยุติสู้รบ อิสราเอล-ฮามาสยังเดือด
ใจความแถลงกระทรวงต่างประเทศของไทย
กระทรวงต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ระบุว่า ประเทศไทยขอแสดงความผิดหวังยิ่งต่อการกลับมาใช้กำลังในฉนวนกาซา ประเทศไทยรู้สึกห่วง กังวลและผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกลับมาสู่การสู้รบในฉนวนกาซา ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2568 อันส่งผลกระทบให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยร้องขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นสูงสุด ยุติการสู้รบ และกลับสู่การเจรจาเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน รวมทั้งอำนวยการขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อทำให้มั่นใจว่าภูมิภาคตะวันออกกลางจะมีเสถียรภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืน
ประเทศไทยเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกคนที่เหลืออยู่ในฉนวนกาซาโดยเร็วที่สุด ซึ่งรวมถึงชาวไทย 1 คน และการส่งคืนร่างตัวประกันชาวไทยที่เสียชีวิต 2 ร่างกลับประเทศไทย
ชะตาชีวิต ตัวประกันไทยคนสุดท้าย
การโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กลุ่มฮามาสได้จับตัวประกันไทยรวม 31 คนไปยังฉนวนกาซา ก่อนที่จะมีการปล่อยตัวประกัน 23 คนในปลายปีดังกล่าว พวกเขาได้เดินทางกลับไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่า ตอนนั้นทางการไทยยังไม่ทราบชะตาชีวิตของแรงงานไทยที่เหลืออีก 8 คน
ล่าสุด แรงงานไทย 5 คน ซึ่งถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันเป็นเวลา 15 เดือน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกระหว่างอิสราเอลและฮามาส พวกเขาเดินทางกลับสู่ประเทศไทย มายังสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ และเดินทางคืนสู่อ้อมอกครอบครัวในบ้านเกิด ท่ามกลางความยินดีของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศแรงงาน และสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ดำเนินการรับตัวตัวประกันไทยทั้ง 5 จากอิสราเอลสู่แดนสยาม
ขณะเดียวกันก็มีข่าวเศร้าและน่าเป็นห่วง เมื่อฮามาสเปิดเผยว่า ตัวประกันไทย 2 ราย เสียชีวิตลงแล้วในปี 2567 เท่ากับว่ายังเหลือตัวประกันชาวไทยอีก 1 คนสุดท้าย ที่ตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร และอยู่ตำแหน่งไหนในฉนวนกาซา อิสราเอลและไทย รวมถึงประเทศผู้ไกล่เกลี่ยก็ต่างทำงานอย่างหนัก เพื่อให้เกิดการขยายเวลาข้อตกลงหยุดยิงหรือดำเนินการต่อในข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สอง ตามที่เคยเจรจากันไว้ หากสันติภาพเดินหน้าต่อ นั่นหมายความว่า ตัวประกันคนสุดท้ายของไทย จะได้หวนคืนบ้านเกิด และร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายจะถูกนำกลับมาประกอบพิธีตามศาสนาด้วย
นองเลือดที่สุดตั้งแต่มีสงครามมา
ดูเหมือนว่า ปลายทางแห่งความสันติสุขจะยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เพราะดีลขยายข้อตกลงหยุดยิงไม่ลงตัว แถมความขัดแย้งรุนแรงขึ้นกว่าการปะทะครั้งไหน ๆ ในรอบปีที่ผ่านมา ล่าสุด อิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาจนกว่าจะมีการปล่อยตัวประกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูประกาศออกทางโทรทัศน์ระบุว่า ต่อจากนี้ไป การเจรจาใดๆ จะเกิดขึ้นพร้อมเสียงกระสุนปืน และยืนยันว่าการโจมตีเต็มรูปแบบนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา นับเป็นวันที่ข้อตกลงหยุดยิงถูกฉีกขาดอย่างเป็นทางการวันแรก สำนักข่าวต่างประเทศต่างรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 400 คนในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นผลจากการที่กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮามาสอย่างเต็มรูปแบบ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล แคตซ์ กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกันที่เหลือและขู่ว่าจะทำอันตรายกองกำลังป้องกันอิสราเอลและชุมชนอิสราเอล เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นการนองเลือดที่สุด ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2023
ขณะที่ฝั่งฮามาสตอบโต้โดยการยิงจรวด 3 ลูกพุ่งเป้ามาที่ตอนกลางอิสราเอล โดยสามารถสกัดไว้ได้ลูกหนึ่ง และอีกลูกหนึ่งตกลงในพื้นที่เปิดโล่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยจรวด เป็นการโจมตีครั้งแรกในรอบหลายเดือน และเป็นครั้งแรกตั้งแต่อิสราเอลเริ่มเปิดฉากโจมตีเมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม การโจมตีครั้งใหม่เปิดฉากด้วยการโจมตีทางอากาศและตามมาด้วยปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน
