กองทัพอิสราเอลประกาศว่า การโจมตีอิหร่านเมื่อช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมเสร็จสิ้นลงแล้ว และเครื่องบินรบของอิสราเอลเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยการโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกเข้าใส่อิสราเอลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และว่า กองทัพอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายโรงงานผลิตขีปนาวุธที่อิหร่านใช้ยิงใส่อิสราเอล อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า โรงงานเหล่านั้นใช้ผลิตขีปนาวุธให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มฮามาส และกลุ่มกบฏฮูธี ซึ่งล้วนเป็นพันธมิตรของอิหร่านด้วยหรือไม่
รายงานระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งทางตะวันตกของกรุงเตหะราน เมื่อเวลาประมาณ 02.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 05.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่อิหร่านเปิดเผยว่า เสียงระเบิดที่ได้ยินน่าจะเป็นเสียงของระบบป้องกันทางอากาศที่ทำงานอยู่ ขณะที่หลังจากนั้น อิหร่านและอิรัก ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งปิดน่านฟ้าของตนเองทันที เนื่องด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลยังได้เตือนอิหร่านถึงการยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ โดยชี้ว่า อิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องพลเรือน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างสองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะยกระดับจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคในวันหนึ่ง
ด้านสำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านรายงานว่า มีการโจมตีเข้าใส่เป้าหมายทางทหารใน 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ เตหะราน อิลัม และคูเซสถาน แต่ถึงแม้การโจมตีทางอากาศจะประสบความสำเร็จ ก็ทำให้เกิดความเสียหายในวงจำกัดเท่านั้น
การตัดสินใจโจมตีของอิหร่านในเช้าวันเสาร์มีขึ้น หลังมีการหารือนานหลายสัปดาห์ถึงวิธีการและขอบเขตของการโจมตีกลับ โดยสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรหลักของอิสราเอลพยายามโน้มน้าวให้อิสราเอลอย่าโจมตีโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับระบบพลังงาน เพราะเกรงว่า จะไปจุดฉนวนความขัดแย้งให้รุนแรงขึ้น
สำนักข่าว CNN รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯพยายามโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ตัดสินใจโจมตีกลับอิหร่านด้วยวิธีการที่จะไม่นำมาสู่เหตุโจมตีอิสราเอลอีกในอนาคต ระหว่างทั้งสองหารือทางโทรศัพท์กันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเคยคาดการณ์ว่า อิสราเอลจะโจมตีอิหร่านกลับก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสหรัฐฯ เพราะไม่อยากให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ CNN ยังรายงานด้วยว่า ทั้งไบเดนและกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคแดโมแครต ได้รับรายงานเรื่องการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลแล้ว และกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด