หนุ่มใหญ่เฉียดตาย แปรงสีฟันติดคอ ลึกจนล้วงออกมาไม่ได้ กู้ภัยหามส่งหมอช่วยชีวิต

หนุ่มใหญ่โคม่า แปรงสีฟันติดคอ เข้าไปลึกจนล้วงออกมาไม่ได้ ญาติโทรเรียกกู้ภัยหามส่งหมอช่วยชีวิต แพทย์แนะวิธีช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีทีสิ่งแปลกปลอมติดคอ เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องบาดเจ็บหรือกระทบถึงชีวิต

เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 12 มิถุนายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานศูนย์วิทยุพระนครได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายท่านหนึ่งทำแปรงสีฟันหลุดเข้าไปในลำคอตนเองอาการสาหัส เหตุเกิดในห้องเช่าภายในซอยกิ่งแก้ว 58 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิร่วมกตัญญูอาสาสมัคร และศูนย์กู้ชีพปราการส่งทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ พอเจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพเดินทางไปถึงก็พบว่าทางญาติกำลังพยายามช่วยกันล้วงเอาแปรงสีฟันที่ติดคอออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาการและประเมินแล้วพบว่าแปรงสีฟันค้างในคอค่อนข้างลึกจึงรีบช่วยเหลือเบื้องต้นและเร่งนำตัวชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลบางพลีเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตเป็นการด่วน

จากการสอบถามทางญาติทราบว่า ชายคนดังกล่าวกำลังแปรงฟันตามปกติแล้วเกิดอาการคล้ายจะอาเจียนแต่ก็ไม่อาเจียน จึงใช้แปลงสีฟันล้วงเข้าไปในลำคอเพื่อหวังให้อาเจียนออกมา แต่เกิดพลาดล้วงลึกไปหน่อยจนแปรงหลุดเข้าไปในลำคอ พอญาติทราบก็พยายามช่วยกันเอาแปรงออกแต่ไม่สำเร็จ ผู้บาดเจ็บและญาติใช้แปรงอีกอันล้วงเข้าไปเพื่อหวังเกี่ยวแปรงออกมา แต่กลับกลายเป็นดันเข้าไปลึกกว่าเก่าจนเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงและรีบนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปติดตามเรื่องนี้รวมถึงสอบถามอาการของผู้บาดเจ็บกับทาง แพทย์หญิงรัชวรรณ เจิดเสริมอนันต์ แพทย์ชำนาญการแพทย์เวรศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลบางพลี ซึ่งเป็นแพทย์เวรที่ช่วยเหลือชายคนดังกล่าวเปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุคนไข้ถูกนำส่งโดยกู้ชีพมาถึงที่ รพ.บางพลี คนไข้ก็ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที เมื่อมาถึงคนไข้สามารถพูดคุยได้ หายใจได้ปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ มีการประเมินเบื้องต้นว่าคนไข้มีสิ่งอุดกั้นในคอแต่ว่าคนไข้ยังสามารถพูดคุยได้อยู่ และตรวจดูว่าวิ่งอุดกั้นอยู่บริเวณไหน สามารถเอาออกได้เลยหรือไม่ โดยการทำการเปิดช่องปากของคนไข้ดูว่ามันมีสิ่งอุดกั้นหรือไม่ หากไม่เห็นก็ต้องใช้เครื่องมือในการช่วยส่องเข้าไป

เมื่อส่องดูก็พบด้ามของแปรงสีฟัน แพทย์ก็ใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือคีบวัตถุนั้นออกมา โดยทางแพทย์เฉพาะทางคุณหมอศัลยกรรมก็มาช่วยดูแลคนไข้ให้ ซึ่งคนไข้ท่านนี้ตอนที่พบแปรงสีฟันอยู่ค่อนข้างลึก อาการคนไข้ล่าสุดคือค่อนข้างปกติแล้ว ไม่มีเสียงแหบ สามารถพูดคุยได้ ไม่มีเนื้อเยื่อบวม คุณหมอจึงอนุญาตให้คนไข้กลับบ้านได้และนัดมาดูอาการในเช้านี้ แต่หากคนไข้มีอาการเปลี่ยนแปลงหรือรู้สึกบาดเจ็บตรงไหนอีกให้รีบมาพบคุณหมอทันที ซึ่งเช้านี้คนไข้ก็มาพบคุณหมอแล้วก็พบว่ามีอาการปกติ

ขณะที่นายแพทย์ธนิศร ตั้งประยูรเลิศ แพทย์ชำนาญการด้านศัลยกรรมโรงพยาบาลบางพลี ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าโอกาสวัตถุแปลกปลอมที่เราเจอบ่อยๆ สำหรับเคสที่เข้ารับการรักษากับหมอเฉพาะทาง โอกาสเจอไม่ค่อยเยอะ โดยเฉลี่ยประมาณ 20% แต่ว่าในผู้ป่วยรายนี้วัตถุแปลกปลอมที่มันหลุดเข้าไปคือแปรงสีฟันที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และยาว ก็มีโอกาสติดได้ตั้งแต่ ติดอยู่บริเวณช่วงลำคอ หลอดอาหาร หรือแม้กระทั่งลงไปในกระเพาะ โดยผู้ป่วยรานี้เมื่อมาถึงตนได้รับการประสานให้มาช่วยประเมินว่าสามารถเอาออกได้ไหม เบื้องต้นอาการคนไข้ค่อนข้างคงที่และให้ความร่วมมืออย่างดี โอกาสที่วัตถุแปลกปลอมที่จะหลุดเข้าไปในกระเพราะอาหารมีโอกาสอยู่ประมาณ 50% เพราะตัววัตถุค่อนข้างใหญ่และยาว แต่ส่วนมากจะติดอยู่ที่บริเวณลำคอถ้าไม่ได้มีการผลักดันในลำคอ มันจะติดที่บริเวณลำคอมากกว่า แต่ในส่วนที่จะลงไปในกระเพราะหรือลำไส้ส่วนต้นมีโอกาสประมาณ 10-15% ซึ่งถ้าลงไปถึงในส่วนลำไส้เล็กหรือกระเพาะอากหารก็จะต้องทำการผ่าตัดเอาออกเพราะวัตถุที่ค่อนข้างยาวเกิน 6 ซม. มันอาจจะทำให้ลำไส้เล็กบาดเจ็บได้

กรณีหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้การมีวัตถุแปลปลอมติดอยู่ในลำคอสิ่งที่เราต้องประเมิณอย่างแรกเลยคือ อาการคนไข้คงที่ไหม ลักษณะของคนไข้มีอาการหายใจติดขัดหรือหายใจไม่ออกหรือไม่ มีน้ำลายไหลหรือกลืนไม่ลงหรือไม่ หากมีอาการพวกนี้แนะนำรีบโทรแจ้ง 1669 หรือทางมูลนิธิกู้ชีพให้เข้าช่วยเหลือคนไข้ หากอาการพูดคุยได้ ออกเสียงได้ และไม่ได้มีอาการของทางเดินหายใจอุดตันร่วมด้วยก็สามารถพามาโรงพยาบาลได้ ในส่วนของการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นต้องดูว่าคนไข้มีอายุช่วงไหน ถ้าคนไข้อายุน้อยกว่า 1 ปีหรือเด็กเล็กต้องใช้วิธีการตบหลัง 5 ครั้ง กดหน้าอก 5 ครั้ง เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา แต่หากคนไข้อายุเกิน 1 ปีแล้ว สามารถอุ้มได้เราก็ใช้วิธีการโอบรัดจากด้านหลังและใช้ตรงข้อมือกับฝ่ามือกดบริเวณลิ้นปี่และเขย่าเพื่อให้คนไข้สำลักและให้สิ่งแปลกปลอมออกมาเอง ไม่แนะนำให้ดันกลับลงไปเพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งทางเดินอาหารและทางเดินหายใจได้มากขึ้น แต่หากไม่มีประสบการณ์จริงๆ แนะนำให้โทร 1669 ตามทางกู้กู้ชีพให้เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นจะเป็นการปลอดภัยสำหรับคนไข้ได้มากกว่า